ในขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอัลต์คอยน์ ราคาของริปเปิล(XRP)กลับยังคงล้าหลังไม่สามารถตามจังหวะการพุ่งของเหรียญอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ ‘วาฬ’ หรือผู้ถือครองรายใหญ่ในตลาด อาจกลายเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อทิศทางของราคาในระยะถัดไป
เมื่อวันที่ 24 นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ว่าในช่วงเวลาเพียง 3 วันที่ผ่านมา กลุ่มวาฬได้สะสมริปเปิลมากกว่า 320 ล้านเหรียญ XRP คิดเป็นมูลค่าสูงถึงประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.39 หมื่นล้านบาทตามราคาตลาด ณ ขณะนั้น ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้มีโอกาสสร้างแรงกระเพื่อมต่อราคาของ XRP ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากสามารถช่วยลดแรงขายจากฝั่งผู้ถือเหรียญ และยังสร้างแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาให้กับนักลงทุนรายย่อยซึ่งมักมีแนวโน้ม “เดินตาม” วาฬในช่วงเวลาสำคัญของตลาด
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม กลุ่มวาฬ XRP เคยเข้าซื้อครั้งใหญ่ลักษณะเดียวกัน ก่อนที่ราคาจะทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.60 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นเพียงไม่นานก็ได้เทขายเพื่อทำกำไร ส่งผลให้ราคาลงมาต่ำกว่าระดับ 2.80 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของวาฬก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ XRP เท่านั้น วาฬของเหรียญอื่นอย่างโดจคอยน์(DOGE) และเอด้า(ADA) ก็มีพฤติกรรมคล้ายกันในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในกรณีของโดจคอยน์ มียอดซื้อสุทธิเกินกว่า 1 พันล้านเหรียญต่อวัน จนราคาพุ่งจาก 0.20 ดอลลาร์เป็น 0.25 ดอลลาร์ในเวลาอันสั้น หรือเติบโตถึง 25% ส่วนเอด้าก็ถูกสะสมเกิน 200 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ราคาขยับจากระดับต่ำกว่า 0.80 ดอลลาร์ ขึ้นมาทะลุ 1 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดรอบหลายเดือน
แม้ตลาดจะอยู่ในภาวะกระทิง แต่ XRP ยังคงตามไม่ทันเหรียญใหญ่อย่างบิตคอยน์(BTC) ที่เพิ่งสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ 124,000 ดอลลาร์ หรืออีเธอเรียม(ETH) ที่ใกล้กลับไปแตะจุดสูงสุดในปี 2021 อีกครั้ง
ความคาดหวังจึงพุ่งเป้าไปที่ว่า กลุ่มวาฬจะสามารถเปลี่ยนทิศทางตลาด XRP ด้วยการ ‘จัดหนัก’ อีกครั้งหรือไม่ แม้การสะสมของวาฬจะไม่ได้การันตีการพุ่งขึ้นของราคาเสมอไป แต่จากประสบการณ์ในอดีตก็ชี้ว่า การซื้อจำนวนมากในลักษณะนี้อาจไม่ใช่แค่การเก็งกำไรระยะสั้น แต่อาจหมายถึงการวางกรอบการลงทุนในระยะกลางถึงยาวซึ่งริมฝีปากตลาดคอยจับตาอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0