รัฐนิวยอร์กเตรียมเดินหน้าจัดเก็บภาษีใหม่จากการซื้อขายคริปโตและโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนได้(NFT) โดยเมื่อวันที่ 5 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ฟิล สเทค(Phi Steck) ได้เสนอร่างกฎหมายซึ่งระบุว่าการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้อง ‘เสียภาษีสินค้า(excise tax) ในอัตรา 0.2%’ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อผ่านการรับรอง และมีกำหนดเริ่มเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้
หากกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะเป็นแหล่งรายได้ขนาดใหญ่สำหรับนิวยอร์ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงบทบาทของมหานครนิวยอร์กในฐานะศูนย์กลางการเงินและฟินเทคของโลก ที่มีการถือครองคริปโตขนาดใหญ่จากบริษัทชั้นนำ รวมถึงมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างต่อเนื่อง
รายได้จากภาษีคริปโตดังกล่าวจะถูกจัดสรรเพื่อต่อยอดในโครงการ ‘ป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้ยาเสพติดในโรงเรียนทางตอนเหนือของรัฐ’ โดยตรง สเทคระบุว่าร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้าง ‘ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม’ ไม่ใช่แค่การหารายได้เข้ารัฐ
ร่างดังกล่าวยังมีการให้คำจำกัดความสินค้าในหมวดสินทรัพย์ดิจิทัลไว้อย่างชัดเจน โดย ‘สกุลเงินดิจิทัล, เหรียญดิจิทัล, NFT และสินทรัพย์ใกล้เคียง’ จะถูกจัดให้เป็นทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี และจะถูกรวมเข้าไว้ในกฎหมายภาษีของนิวยอร์กที่มีอยู่ ป้องกันปัญหาความซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งกับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ยังต้องผ่านหลายขั้นตอน โดยเริ่มจากการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการประจำสภาผู้แทนราษฎร ก่อนนำเข้าสู่การลงมติในสภา จากนั้นจึงต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภารัฐ และปิดท้ายด้วย ‘การลงนามรับรองหรือยับยั้ง’ โดยผู้ว่าการรัฐ
ในปัจจุบัน รัฐต่างๆของสหรัฐมีอิสระในการจัดเก็บภาษี ทำให้เกณฑ์การเก็บภาษีคริปโตแตกต่างกันออกไป หลายรัฐแข่งขันเพื่อดึงดูดธุรกิจด้วยการ ‘ลดหรือยกเว้นภาษี’ สำหรับกิจการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น เท็กซัสซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะรัฐที่มีนโยบายผ่อนปรนอย่างมากในประเด็นนี้
ในขณะที่นิวยอร์กและแคลิฟอร์เนียมีแนวโน้มที่จะ ‘มองคริปโตเหมือนเงินสด’ และมีการเก็บภาษีอย่างเข้มงวด ตรงกันข้ามกับรัฐวอชิงตันที่ยังคง ‘ยกเว้นภาษีสำหรับการทำธุรกรรมคริปโต’ ความแตกต่างของนโยบายเหล่านี้ก่อให้เกิดเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเร่งพิจารณา ‘แนวทางครอบคลุมระดับชาติ’ เพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
*ความคิดเห็น* แนวทางของนิวยอร์กอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกใหม่ในการจัดเก็บภาษีในอุตสาหกรรมคริปโต โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการสร้างรายได้กับการสนับสนุนสังคมอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0