Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) ส่งสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม นักลงทุนจับตาความเสี่ยงขาลง

บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) ส่งสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม นักลงทุนจับตาความเสี่ยงขาลง / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และริปเปิล(XRP) กำลังแสดง *สัญญาณทางเทคนิคที่สุ่มเสี่ยง* ต่อการเปลี่ยนแนวโน้มอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ XRP ที่มีความเสี่ยงจะปรับฐานแรงหากไม่สามารถรักษาการฟื้นตัวในช่วงต้นเอาไว้ได้ ขณะที่ ETH เผชิญกับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของปริมาณซื้อขาย ส่วนบิตคอยน์ที่ไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้ อาจเผชิญความเสี่ยงขาดทุนสูงถึง 100,000 ดอลลาร์หรือราว 3.9 ล้านบาทในอนาคตอันใกล้

ริปเปิล(XRP) กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังราคาทรงตัวอยู่อย่างเปราะบางเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 26 วัน (EMA) ซึ่งมักเป็นจุดเริ่มฟื้นตัวของราคา แต่ครั้งนี้กลับพบว่าแรงซื้อไม่เพียงพอ ทำให้ความเป็นไปได้ของการกลับตัวสู่ขาขึ้นค่อนข้างต่ำ หาก XRP ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระยะสั้นได้อย่างมั่นคง แนวรับแรกจะอยู่ที่ระดับ 2.89 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,012 บาท) และหากหลุดลงต่ำกว่านั้น อาจถอยกลับไปที่ 2.70 ดอลลาร์ (ราว 3,753 บาท) ทันที

สำหรับอีเธอเรียม(ETH) ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงถึง *300%* ส่งผลให้ราคาขยับแตะแนวต้านบริเวณ 4,600 ดอลลาร์ (ราว 639,000 บาท) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นจุดเสี่ยงต่อภาวะ *“ซื้อมากเกินไป”* จากดัชนี RSI ที่เข้าใกล้ระดับสูงสุด หากเกิดการพักฐาน แนวรับที่ต้องจับตาคือ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 556,000 บาท) และหากร่วงลงต่อจุดกลับตัวถัดไปอยู่แถวระดับ 3,500 ดอลลาร์ (ราว 486,000 บาท) โดยนักวิเคราะห์มองว่า แม้อีเธอเรียมจะยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นระยะยาว แต่การเร่งตัวของปริมาณซื้อขายอาจนำไปสู่แรงขายเพื่อทำกำไรได้เช่นกัน *"ความคิดเห็น"*

ด้านบิตคอยน์(BTC) ได้พยายามทดสอบแนวต้านที่ 121,000 ดอลลาร์ (ราว 1.68 ล้านบาท) แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ราคาเริ่มอ่อนตัวท่ามกลางแรงขายที่เพิ่มขึ้น แสดงถึงรูปแบบ *“นักขายได้เปรียบ”* ซึ่งอาจกดดันให้ราคาย่อตัวต่อเนื่อง โดย EMA 26 วันในขณะนี้มีลักษณะคล้ายทรงแบน ไม่ได้ส่งสัญญาณสนับสนุนในทิศทางใด ขณะที่ RSI อยู่แถวระดับกลางราว 50 ชี้ว่ายังมีพื้นที่ให้ราคาปรับตัวลงต่อได้ โดยแนวรับใกล้ที่สุดอยู่ที่ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.59 ล้านบาท) และหากหลุดจากระดับนั้น ก็อาจลงไปทดสอบ 110,000 ดอลลาร์ (ราว 1.53 ล้านบาท) อีกครั้ง หากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ราคาบิตคอยน์อาจร่วงแตะ 102,500 ดอลลาร์ (ราว 1.42 ล้านบาท) *ซึ่งถือเป็นจุดวิกฤตของแนวโน้มระยะกลาง*

ในภาพรวม *แนวโน้มขาขึ้นเริ่มแสดงความเหนื่อยล้า* ผนวกกับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของนักลงทุน จึงทำให้แนวโน้มของเหรียญหลัก ๆ ยังขาดความชัดเจนว่า จะสามารถรักษาโมเมนตัมได้หรือไม่ นักลงทุนจึงควรระวังและติดตามสัญญาณทางเทคนิคอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับกลยุทธ์รับสถานการณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่านของตลาดคริปโตนี้อย่างรอบคอบ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1