บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังแตะระดับสูงสุดที่ 124,474 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.3 ล้านบาท) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่พบว่ามีแรงรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 117,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.26 ล้านบาท) ซึ่งดึงดูดแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างชัดเจน สถานการณ์นี้ถูกมองว่าอาจเป็นเพียง *การปรับฐานในระยะสั้น* เท่านั้น ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง
ตามรายงานล่าสุดจากบทวิเคราะห์ *Bitcoin Intelligence Report* ระบุว่า บิตคอยน์กำลังเผชิญแนวต้านสำคัญบริเวณ 130,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 18.07 ล้านบาท) ซึ่งต้องจับตาว่าราคาในระยะสั้นสามารถทะลุผ่านไปได้หรือไม่ โดยรายงานยังชี้ว่า *มีโอกาสสูงที่บิตคอยน์จะขึ้นแตะ 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 27.8 ล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้*
ด้านอีเธอเรียม(ETH) ก็แสดงสัญญาณการพักฐาน หลังจากพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้ว่าราคาจะถูกแรงขายทำกำไรกดดัน แต่ยังคง *ยืนเหนือแนวรับที่มั่นคงบริเวณ 4,094 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.68 ล้านบาท)* ได้อย่างแข็งแกร่ง
ข้อมูลจากผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน โซโซแวลู(SoSoValue) เผยว่า *เฉพาะสัปดาห์นี้เพียงสัปดาห์เดียว กองทุน ETF อีเธอเรียมแบบสปอตมียอดเงินไหลเข้าสุทธิสูงถึง 2.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.029 หมื่นล้านบาท)* ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน โดย *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์ชี้ว่า ปริมาณเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสะท้อนความคาดหวังว่าอีเธอเรียมยังมีพื้นที่สำหรับการเติบโตต่อไปในระยะกลางถึงยาว
โดยรวมแล้ว บิตคอยน์และอีเธอเรียมต่างยังคงแสดงรูปแบบการพักฐานท่ามกลางโครงสร้างการซื้อขายที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเตรียมเข้าสู่ช่วง *ฟื้นตัวของราคาครั้งใหม่* อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยสำคัญคือ ความต่อเนื่องของการไหลเข้าของ *เงินทุนจากสถาบัน* ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกในเชิงยุทธศาสตร์สำหรับตลาดคริปโตในระยะยาว
ความคิดเห็น 0