โดจ์คอยน์(DOGE) แสดงสัญญาณฟื้นตัวในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้จะขยับขึ้นเล็กน้อยแต่กลับเกิดปรากฏการณ์ ‘ชำระบัญชีแบบไม่สมดุล’ อย่างรุนแรง โดยมีตำแหน่งซื้อ(Long position) จำนวนมากถูกปิดสถานะแบบบังคับ ส่งผลให้ความเสี่ยงในตลาดระยะสั้นพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน
อ้างอิงจาก CoinGlass เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ระบุว่า นักเทรดที่ถือสถานะซื้อโดจ์คอยน์ในช่วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ขาดทุนรวมราว 148,880 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20.7 ล้านบาท ในขณะที่สถานะขาย(Short position) ถูกชำระบัญชีเพียง 43.39 ดอลลาร์ หรือราว 6 พันบาทเท่านั้น นับเป็นความแตกต่างของการชำระบัญชีมากถึง *343,069%* ซึ่งสะท้อนแรงกดดันในฝั่งขาขึ้นได้อย่างชัดเจน
ราคาของโดจ์คอยน์ตาม CoinMarketCap เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 0.2088 ดอลลาร์ (ประมาณ 290 บาท) ถึง 0.224 ดอลลาร์ (ประมาณ 311 บาท) และล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ 0.2161 ดอลลาร์ (ประมาณ 300 บาท) แม้การปรับขึ้นราว 0.65% จะดูเล็กน้อย แต่ความผันผวนของราคากลับสะท้อนออกมาผ่านข้อมูลการชำระบัญชีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายของโดจ์คอยน์ลดลงกว่า 21.52% อยู่ที่ 2.61 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท ซึ่งสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ โดยแสดงความเห็นว่าการฟื้นตัวครั้งนี้อาจเป็นเพียงแค่กระแสสั้นๆ ไม่ใช่แนวโน้มระยะยาว
นอกจากนี้ ปัจจุบันโดจ์คอยน์ได้เกิด 'โกลเดนครอส' ซึ่งเป็นสัญญาณบวกในกราฟรายวัน สร้างความคาดหวังให้แก่ผู้ถือครอง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคา บิตคอยน์(BTC) ที่ยังคงไม่เคลื่อนไหวมากนัก และภาพรวมของตลาดที่ยังไม่แน่นอน ยังคงเป็นแรงต้านที่สำคัญต่อการเดินหน้าของโดจ์คอยน์ ความเห็นจากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายระบุว่า การเคลื่อนไหวของโดจ์คอยน์ยังสัมพันธ์กับราคาบิตคอยน์อย่างสูง และทิศทางระยะกลางยังต้องอิงกับ BTC เป็นหลัก
อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์คริปโต ระบุว่าโดจ์คอยน์กำลังเคลื่อนไหวภายใต้รูปแบบ ‘สามเหลี่ยมสมมาตร’ (Symmetrical Triangle) และหากมีการเบรกเอาท์หรือฝ่าแนวต้านสำเร็จ อาจเห็นการปรับขึ้นได้สูงถึง *40%* ในอนาคต แต่ก็ยังคงต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนที่มาจากภาวะฟื้นตัวของตลาดโดยรวม
อีกหนึ่งประเด็นที่สร้างแรงกดดันต่อจิตวิทยานักลงทุนคือ ความเป็นไปได้ที่โดจ์คอยน์อาจถูกรวมเข้ากับ Qubic Network ซึ่งแม้จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวลือดังกล่าวก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในชุมชนผู้ถือครองบางส่วน
เมื่อพิจารณาร่วมกับข้อมูลการชำระบัญชีขนาดใหญ่และการลดลงของวอลุ่มซื้อขายชัดเจนว่า โดจ์คอยน์ยังมี ‘ความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ตลาด’ ในระดับสูง หากไม่มีแรงซื้อใหม่เข้ามารองรับ ราคาที่ปรับขึ้นในครั้งนี้อาจเป็นเพียงแค่เสียงสะท้อนของความผันผวน มากกว่าการเริ่มต้นของเทรนด์ขาขึ้นใหม่
ความคิดเห็น 0