แรงซื้อในตลาด *บิตคอยน์(BTC)* ยังคงผันผวนใกล้ระดับ 110,000 ดอลลาร์ ขณะที่ตลาด *อัลต์คอยน์* โดยรวมถูกกระหน่ำด้วยแรงเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดลดลงมาต่ำกว่า 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 5,431 ล้านล้านวอน)
บิตคอยน์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 109,000 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นชั่วคราวแตะระดับ 117,000 ดอลลาร์หลัง *เจอโรม พาวเวลล์(Jerome Powell)* ประธานธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณเศรษฐกิจที่อาจเป็นบวก อย่างไรก็ดี แรงซื้อดังกล่าวอยู่ได้ไม่นาน และราคาถูกกดลงต่ำกว่า 111,000 ดอลลาร์อีกครั้งโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงปิดตลาดวันอาทิตย์ที่มีการ *ชำระบัญชี* ตำแหน่ง Long มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.17 แสนล้านวอน) ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
แม้บิตคอยน์จะรีบาวด์เล็กน้อยและเคลื่อนไหวแถวระดับต้นของ 110,000 ดอลลาร์ แต่ภาพรวมตลอดวันยังติดลบกว่า 1% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ลดลงต่ำกว่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 3,058 ล้านล้านวอน) อย่างไรก็ตาม *ส่วนแบ่งทางการตลาด* หรือ Market Dominance ของบิตคอยน์กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 56.6% สะท้อนถึงการอ่อนแรงในฝั่ง *อัลต์คอยน์*
ด้าน *อีเธอเรียม(ETH)* ร่วงหนักกว่า 4% ภายในวันเดียว โดยราคาดิ่งจากระดับสูงสุดของวันก่อนหน้าลงมาถึง 600 ดอลลาร์ ปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 4,400 ดอลลาร์ ขณะที่ *เชนลิงค์(LINK)* ดิ่งลงมากกว่า 8% สู่ระดับ 23 ดอลลาร์
เหรียญหลักอื่น ๆ อย่าง *โซลานา(SOL), ดอจคอยน์(DOGE), ทรอน(TRX), ไบแนนซ์คอยน์(BNB), อวาแลนเช(AVAX)* และ *ทอนคอยน์(TON)* ต่างไม่สามารถต้านทานแรงขายได้เช่นกัน
ไม่เพียงแต่เหรียญขนาดใหญ่ กลุ่ม *สกุลเงินดิจิทัลขนาดกลาง* ก็เผชิญแรงกดดันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยและทิศทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายและทำให้มูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตสูญหายไปถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 83.4 ล้านล้านวอน) ภายในวันเดียว
*ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์มองว่าหากแรงขายยังคงดำเนินต่อในระยะสั้น อาจทำให้ราคาหลุดจากแนวรับทางเทคนิค ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักลงทุนควรระมัดระวังและไม่ควรรีบตัดสินใจลงทุนภายใต้สภาวะตลาดที่ยังคงแปรปรวนในขณะนี้
ความคิดเห็น 0