ท่ามกลางกระแสการปฏิวัติของยุคเอเจนต์ AI ล่าสุด ไทเกอร์รีเสิร์ช (Tiger Research) ออกรายงานชี้ว่า ‘โครงสร้างพื้นฐานของเว็บในปัจจุบัน’ ยังคงมีข้อจำกัดอย่างรุนแรงในการรองรับการทำงานของเอเจนต์ AI ที่ฉลาดขึ้นทุกวัน โดยสาเหตุหลักมาจากการที่เว็บถูกออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักร ทำให้ข้อมูลมีลักษณะไม่เป็นระบบ ความแม่นยำต่ำ และขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของระบบ AI
รายงานซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 24 (ตามเวลาท้องถิ่น) ระบุว่า ความไม่สม่ำเสมอของข้อมูล เช่น การเขียนเวลาเป็น "2:30 PM" หรือ "14:30" ซึ่งต่างรูปแบบกัน แม้จะหมายถึงสิ่งเดียวกัน แต่กลับสร้าง ‘อุปสรรคใหญ่’ ต่อการเรียนรู้ของโมเดล AI ไหนจะยังต้องเผชิญกับข้อมูลเท็จหรือคลาดเคลื่อน ที่ทำให้เกิด “ภาวะหลอน (Hallucination)” — ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาร้ายแรงของเอเจนต์ AI ปัจจุบัน
ไทเกอร์รีเสิร์ชเสนอว่าโครงการ ‘อินทูอิชัน(Intuition)’ ซึ่งใช้เทคโนโลยีจากโลกเว็บ3 อาจกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานมาตรฐานใหม่ของอินเทอร์เน็ต โดยมีแนวคิดจาก *เว็บเชิงความหมาย* (Semantic Web) ที่นำมาใช้ในลักษณะกระจายศูนย์ผ่านกลไกบล็อกเชน วิธีการหลักคือแบ่งข้อมูลเป็นหน่วยเล็กที่เรียกว่า *อะตอม(Atom)* ซึ่งสามารถแนบ *แหล่งที่มา* และ *คุณสมบัติจำเพาะ* เข้าไปได้ ทำให้ตรวจสอบย้อนกลับและประเมินความน่าเชื่อถือได้แบบละเอียด
ข้อมูลที่แยกเป็นอะตอมเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันกลายเป็น *กราฟความรู้ (Knowledge Graph)* ที่เปิดทางให้ AI ตัดสินใจอย่างเป็นมีเหตุผลมากยิ่งขึ้น ส่งผลทั้งต่อความแม่นยำและการลดความผิดพลาดของระบบ
อีกฟีเจอร์สำคัญคือ *ทะเบียนจัดเรียงโดยผู้ดูแลผ่านโทเคน (Token Curated Registry - TCR)* ด้วยการใช้ $TRUST โทเคนเป็นหลักในระบบ ผู้ใช้งานสามารถวางเดิมพันหรือ ‘สเตกกิ้ง’ โทเคนบนอะตอมที่ตนมองว่ามีค่า หากข้อมูลนั้นถูกใช้งานบ่อยหรือได้รับการยอมรับสูง จะได้รับรางวัลตอบแทน ความคิดเห็น: นี่คือการสร้าง 'ตลาดความน่าเชื่อถือ' ในระบบเปิดที่ไม่ผูกขาด เทียบได้กับการรีวิวสินค้าในอเมซอนหรือคะแนนในอูเบอร์ แต่เปลี่ยนไปใช้โมเดลที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
ไม่เพียงเท่านั้น อินทูอิชันยังเพิ่มระบบ *สัญญาณ (Signal)* เพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของแต่ละอะตอม โดยเก็บทั้งข้อมูลประเมินโดยตรง (staking), พฤติกรรมการใช้งาน, และความคิดเห็นจากผู้ใช้ที่ได้รับความเชื่อถือสูง ข้อมูลเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นว่า ‘ใคร’ เชื่อ ‘อะไร’ มากน้อยเพียงใด และเมื่อเชื่อมโยงเข้ากับ *อุโมงค์ความเป็นจริง (Reality Tunnel)* ที่ปรับแต่งตามบุคคล จะทำให้เอเจนต์ AI สามารถทำงานได้แบบเฉพาะบุคคลและมีมุมมองตรงกับบริบทของผู้ใช้งาน
โครงสร้างของอินทูอิชันจึงไม่เพียงช่วยให้ AI เอเจนต์ทำงานได้ดีขึ้น แต่ยังอาจ *เปลี่ยนนิยามของอินเทอร์เน็ต* ใหม่ทั้งหมด เว็บที่กระจัดกระจายจะเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว เพิ่มทั้งความคล่องตัวและความสามารถในการขยายตัวของข้อมูล โครงการนี้อาจมีผลกระทบเชิงมาตรฐานเทียบเท่ากับที่ ERC-20 เคยสร้างให้กับโทเคนในสมัยรุ่งเรืองของสมาร์ตคอนแทรกต์
ไทเกอร์รีเสิร์ชสรุปว่า การสร้างเว็บ3 ด้วยโครงสร้างใหม่ในลักษณะนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดทางเทคนิค แต่เป็น ‘เงื่อนไขสำคัญ’ สำหรับอินเทอร์เน็ตยุคต่อไป ที่เหล่า AI ต้องสื่อสาร ประมวลผล และร่วมมือกันได้แบบเรียลไทม์ หากเราต้องการเห็นเอเจนต์ที่เหมือนผู้ช่วยเข้าใจเราจริงๆ และเชื่อถือได้ อินฟราสตรักเจอร์พื้นฐานเช่นนี้คือจิ๊กซอว์ที่ขาดไม่ได้
ความคิดเห็น 0