ตลาดคริปโตกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างเงียบ ๆ เมื่อวิธีการวิเคราะห์แบบดั้งเดิมอย่างกราฟแท่งเทียน, แนวรับแนวต้าน หรือ Bollinger Bands ที่เคยเป็นเครื่องมือคู่ใจของนักเทรด กลับถูกแทนที่ด้วย ‘การตีความโดยตรง’ จากปัญญาประดิษฐ์(AI) ที่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่
ในช่วงหลังมานี้ นักลงทุนเริ่มหันไปสอบถาม AI อย่าง ChatGPT หรือ Grok แทนที่จะนั่งจ้องกราฟและตีความตัวชี้วัดต่างๆ ที่ซับซ้อน โมเดลเหล่านี้ไม่ได้แค่แสดงข้อมูลแบบตัวเลขเท่านั้น แต่ยังนำเสนอข้อมูลเชิงอารมณ์และบริบท เพื่อสะท้อน ‘บรรยากาศของตลาด’ ได้อย่างแม่นยำ ความนิยมจึงเพิ่มมากในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งจะใช้ AI เป็นตัวช่วยถามคำถามอย่างเช่น "ตอนนี้ควรซื้อลงทุนในโซลานา(SOL) หรือไม่?" แทนการวิเคราะห์กราฟด้วยตัวเอง
หนึ่งในปัจจัยที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้คือ ‘ความเหนื่อยล้าจากการดูกราฟ’ นักลงทุนมือใหม่มักสับสนกับคำศัพท์และรูปแบบทางเทคนิค เช่น RSI หรือแท่งเทียนที่มีไส้บนยาว จึงเลือกใช้ภาษาธรรมชาติเข้าใจง่ายแทนที่จะพยายามตีความตัวชี้วัดทางเทคนิคทั้งหมดด้วยตนเอง
หากลองใช้ Grok เพื่อสอบถาม เช่น "วิเคราะห์ความรู้สึกของนักลงทุนต่อริปเปิล(XRP) ในแพลตฟอร์ม X" จะพบว่า AI ไม่เพียงสะท้อนข่าวดีด้านกฎระเบียบหรือความยืดหยุ่นของโครงการ แต่ยังพูดถึงประเด็นด้านลบ เช่น ความกังวลเรื่องความเป็นศูนย์กลางหรือผลงานในอดีตที่ยังไม่ตอบโจทย์ นั่นหมายความว่า AI สามารถให้ *ข้อมูลที่มีบริบท ครบถ้วนและเป็นกลาง* จับภาพรวมของ ‘ความรู้สึก’ ที่กราฟไม่สามารถถ่ายทอดได้
แม้ AI จะยังไม่แทนที่เครื่องมือวิเคราะห์กราฟทั้งหมด แต่มันได้กลายเป็น ‘ประตูแรก’ สำหรับผู้เริ่มต้น และเป็นเครื่องมือวิเคราะห์เชิงจิตวิทยาในระดับสูงสำหรับมืออาชีพ เพราะสามารถรับรู้ ‘การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ด้านอารมณ์’ และ *มุมมองมหภาค* ควบคู่กันไป เมื่อข้อมูลในตลาดไหลเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยิ่งชัดเจนว่า ‘การตีความ’ ในยุคนี้ กำลังเกิดขึ้นผ่านการสนทนากับเครื่องจักร มากกว่าผ่านกราฟบนหน้าจอ
ความคิดเห็น 0