อีเธอเรียม(ETH) ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นโดยมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคากำลังเข้าใกล้ระดับจิตวิทยา 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและข้อมูลออนเชนเริ่มส่งสัญญาณว่าอาจมีการ ‘ปรับฐาน’ เกิดขึ้นได้ในระยะสั้น แม้แนวโน้มโดยรวมจะยังเป็นบวก แต่แรงขายเริ่มทวีความเด่นชัดมากขึ้นในระดับราคาปัจจุบัน
จากกราฟรายวัน ราคายังคงวิ่งอยู่ในกรอบรูปแบบ ‘ลิ่มขาขึ้น’ พร้อมกับยืนเหนือเส้นกึ่งกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อจากฝั่ง ‘กระทิง’ ยังไม่หมดพลัง อย่างไรก็ตาม การเกิดสัญญาณ ‘Bearish Divergence’ จาก *ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)* ทำให้นักลงทุนไม่ควรประมาท ถ้าราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญในช่วง 4,700–4,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.54–6.67 ล้านบาท) ได้อย่างมั่นคง ความเป็นไปได้ที่ราคาจะย่อลงในระยะสั้นยังคงมีอยู่
ขณะที่กราฟ 4 ชั่วโมงเริ่มมี ‘แนวโน้มเปลี่ยนแปลง’ ปรากฏขึ้น โดยมีสัญญาณ *Break of Structure (BOS)* ซึ่งบ่งชี้ว่าทิศทางระยะสั้นอาจเริ่มเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นแรงซื้อในบริเวณแนวรับหลักได้ตอบสนองทันทีเพื่อปกป้องระดับราคาสำคัญ ส่งผลให้ 4,800 ดอลลาร์กลายเป็นจุดชี้เป็นชี้ตาย หากสามารถเบรกผ่านขึ้นไปได้ อาจเริ่มเข้าสู่ ‘ขาขึ้นรอบใหม่’ แต่หากหลุดแนวรับอาจกลับเข้าสู่แรงขายอีกระลอก
ข้อมูลจากออนเชนเองก็สะท้อนภาพที่ควรระมัดระวัง โดยเฉพาะ *ค่าเฉลี่ย 30 วันของอัตราส่วน Taker Buy/Sell* ที่ยังคงปรับตัวลดลง ซึ่งตีความได้ว่ากลุ่มผู้ขายเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้อาจมาจากนักลงทุนระยะสั้นที่เริ่ม *เทขายทำกำไร* และถ้ายังคงดำเนินต่อไป อาจฉุดให้เกิดการย่อลงลึกได้ อย่างไรก็ตาม หากแรงเทขายถูกรับไว้โดยนักลงทุนระยะยาว ก็สามารถมองว่าเป็นการ ‘พักฐานในแนวขาขึ้น’ ที่ยังคงมีเสถียรภาพอยู่
ประเด็นสำคัญในตอนนี้คือ ราคาที่กำลังขยับเข้าใกล้ระดับ 5,000 ดอลลาร์ เป็นเพียงช่วงพักหายใจของตลาดกระทิง หรืออาจเป็นการปรากฏตัวของ *ยอดคลื่นสุดท้าย* ก่อนการกลับตัว การทะลุแนวต้านนี้มี ‘ความหมายเชิงสัญลักษณ์’ ที่สะท้อนการทำจุดสูงสุดใหม่ของอีเธอเรียม แต่ขณะเดียวกันก็ *เพิ่มแรงกดดันทางจิตวิทยา* ต่อราคาด้วย
หากต้องการทะยานขึ้นทำสถิติใหม่ให้สำเร็จ อีเธอเรียมจำเป็นต้องได้รับแรงหนุนทั้งจากโมเมนตัมทางเทคนิคและการสนับสนุนจากข้อมูลออนเชน ผู้เล่นในตลาดควรจับตาสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มอย่างใกล้ชิด และในระยะกลางไปถึงระยะยาว ‘แนวรับบริเวณ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 ล้านบาท)’ จะเป็นระดับที่นักลงทุนควรใช้เป็นฐานวิเคราะห์เพื่อประเมินแรงเสถียรของแนวโน้มราคาอย่างรอบคอบ
ความคิดเห็น 0