อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบิตเม็กซ์(BitMEX) แสดงความเห็นว่า *ตลาดขาขึ้นของบิตคอยน์(BTC) ยังไม่สิ้นสุด* โดยชี้ว่าการขยายตัวของ *นโยบายการเงิน* ทั่วโลกจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อราคาคริปโตที่เพิ่มขึ้น เขายังตั้งข้อสังเกตว่า ทฤษฎี ‘วัฏจักร 4 ปี’ แบบเดิมอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป
เฮย์สให้สัมภาษณ์ผ่านช่องยูทูบของนักลงทุน คาโยล์ ชาสเซ(Kyle Chassé) ว่า ปัจจัยหลักที่หนุนตลาดขาขึ้นคริปโตรอบนี้ คือ *การเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องระดับมหภาค* ซึ่งมาจากท่าทีของธนาคารกลางรายใหญ่ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่แม้จะมีนโยบายการเงินแบบเข้มงวดในบางช่วง แต่ก็ยังเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมากกว่า
เขายังเน้นย้ำถึง *สถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์* ว่าจะผลักดันรัฐบาลทั่วโลกให้ดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัว โดยเฉพาะในสหรัฐ หาก *ทรัมป์ได้บริหารประเทศต่อในสมัยที่สอง* ก็มีแนวโน้มที่ว่าในช่วงหลังกลางปี 2026 จะมี *มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่* ซึ่งอาจกลายเป็น *“โอกาสประวัติศาสตร์” สำหรับคริปโต* และตลาดหุ้นโดยรวม
แม้ราคาบิตคอยน์จะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 116,000 ดอลลาร์ ก่อนจะย่อลงมาแถว 115,000 ดอลลาร์ แต่เฮย์สกลับไม่กังวลต่อความผันผวนในระยะสั้น เขายืนยันว่าในเชิง *ผลตอบแทนระยะยาว บิตคอยน์ยังเหนือกว่าทั้งหุ้น อสังหาฯ และทองคำ* พร้อมเปรียบเทียบบิตคอยน์ว่าเป็น "*ม้าคล่องตัวกว่า (Faster Horse)*" เมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม
เฮย์สยังคงยึดมั่นใน *คาดการณ์ราคาบิตคอยน์ที่ 250,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2025* แม้จะยอมรับว่าหากเข้าสู่ช่วงพีกของสภาพคล่อง ตลาดอาจเผชิญกับความเสี่ยงใหม่ๆ แต่เขาเชื่อว่ายังไม่ถึงจุดนั้นในตอนนี้
ในช่วงท้าย เขากล่าวว่า *บิตคอยน์คือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงขั้นสูงสุดจากการด้อยค่าของเงิน* และย้ำว่า *“ความอดทนคืออาวุธที่ทรงพลังกว่าอย่างอื่น”* การลงทุนอย่างมีวิสัยทัศน์ มากกว่าความโลภและการเก็งกำไรในระยะสั้น คือหนทางสู่ชัยชนะในระยะยาว ความคิดเห็นนี้สะท้อนมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่มองได้ไกลกว่ากราฟรายวัน
ความคิดเห็น 0