กูเกิลเปิดตัวโปรโตคอลระบบชำระเงินแบบ AI ที่รองรับ *สเตเบิลคอยน์* ภายใต้โครงการโอเพนซอร์ส เพื่อเร่งปฏิวัติระบบการเงินในยุค Web3 โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือกับกว่า 60 บริษัททั่วโลก เช่น เซลส์ฟอร์ซ และ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ขณะที่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตัวแทนจากอุตสาหกรรมได้เริ่มเจรจากับฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อผลักดันกฎหมาย *บิตคอยน์(BTC)* ในระดับสหพันธรัฐ
เมื่อวันที่ 18 (เวลาท้องถิ่น) กูเกิลประกาศความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำทั่วโลกในการพัฒนาโปรโตคอลที่ช่วยให้ *แอปพลิเคชัน AI สามารถดำเนินการชำระเงินดิจิทัลโดยอัตโนมัติ* รวมถึงผ่านการใช้ *สเตเบิลคอยน์* โปรโตคอลนี้พัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนโดยได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก *คอยน์เบส(Coinbase)* และได้รับคำปรึกษาจากมูลนิธิ *อีเธอเรียม(ETH)* เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
เจมส์ โทรแมนส์ หัวหน้าฝ่าย Web3 แห่งกูเกิลคลาวด์กล่าวกับนิตยสารฟอร์จูนว่า โปรโตคอลใหม่นี้สามารถรองรับทั้งระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคตอย่าง *สเตเบิลคอยน์* ขณะที่เอริก เรปเพล วิศวกรของคอยน์เบสเสริมว่า “AI กำลังพลิกโฉมวิธีที่เรามอบและรับมูลค่า” พร้อมเผยให้เห็นศักยภาพของระบบนี้ที่จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในเศรษฐกิจ AI
โปรเจกต์นี้มีพื้นฐานจากเฟรมเวิร์ก ‘Agent2Agent’ ซึ่งกูเกิลเปิดตัวเมื่อเมษายนที่ผ่านมา โดยมีทั้งบริษัทเทคโนโลยีและที่ปรึกษาชั้นนำ เช่น *เพย์พาล, SAP, แมคคินซีย์, ดีลอยต์* และ *PwC* เข้าร่วมพัฒนา จุดเด่นคือช่วยให้ ‘AI เอเจนต์’ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ พร้อมเชื่อมต่อกับระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง (*DeFi*) ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาระบบชำระเงินอัตโนมัติสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
อีกด้านหนึ่ง *คริปโตไฟแนนซ์* บริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน เปิดตัวโซลูชัน *ออฟเอ็กซ์เชนจ์* ชื่อ ‘AnchorNote’ ที่ช่วยให้สถาบันลงทุนสามารถทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลบนหลากหลายแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ออกนอกระบบคัสโตเดียน โซลูชันนี้รองรับทั้งการควบคุมความเสี่ยงและข้อกำหนดด้านกฎหมายอย่างครบถ้วน
ฟิลิป เดตไวเลอร์ หัวหน้าฝ่ายคัสโตเดียนและการชำระเงินของคริปโตไฟแนนซ์กล่าวว่า “AnchorNote ช่วยลดช่องว่างระหว่างสภาพแวดล้อมการจัดเก็บทรัพย์สินกับประสิทธิภาพของเงินทุน” ทั้งนี้ ระบบนี้เริ่มใช้งานในตลาดสวิสและจะขยายไปยังยุโรปในอนาคต โดยเชื่อมต่อกับระบบนิเวศผ่านมิดเดิลแวร์ชื่อ *BridgePort* เพื่อสนับสนุนการส่งข้อความแบบเรียลไทม์ระหว่างแพลตฟอร์มซื้อขายและผู้รับฝากทรัพย์สิน
กระแสการบรรจบกันของ *AI* และ *เทคโนโลยีบล็อกเชน* กำลังกลายเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพของระบบการเงินแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังเร่งการผลักดันด้านกฎหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรมคริปโตเริ่มเข้าสู่กระบวนการร่างกฎหมาย *BITCOIN Act* ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อต่อยอดการใช้งาน *บิตคอยน์(BTC)* ในระดับกว้าง โดยเฉพาะในบริบทของ *สเตเบิลคอยน์*, นักลงทุนสถาบัน และการรวมระบบกับ AI ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดกรอบกำกับดูแลอย่างเป็นทางการในไม่ช้า
ความคิดเห็น 0