ราคาบิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัวกลับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าของวันพุธตลาดเอเชีย หลังจากหลุดระดับแนวรับที่ 111,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.5 ล้านบาท) และร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 111,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.4 ล้านบาท) ก่อนจะพลิกตัวกลับขึ้นสู่ระดับ 113,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.8 ล้านบาท) ในเวลาไม่นาน การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของ *การเปลี่ยนทิศทางในช่วงกลางสัปดาห์* โดยสัญญาณ 'ไดเวอร์เจนซ์ขาขึ้น' บนกราฟหลายตัวที่ปรากฏ ช่วยเสริมมุมมองดังกล่าวและสร้างแรงหนุนต่อแรงซื้อในระยะสั้น
แม้จะเกิดความพยายามในการฟื้นตัว แต่ตลาดบิตคอยน์ยังคงเผชิญกับ *แรงกดดันจากฝั่งอุปทาน* ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์เครือข่ายอย่างคริปโตควอนต์ระบุว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 มีการตรวจพบการขายจากกระเป๋าเงินระดับวาฬ คิดเป็นจำนวนถึง 147,000 BTC ซึ่งหากคำนวณตามราคาปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 16,750 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 23.2 หมื่นล้านบาท) แรงขายระดับนี้ในระยะสั้น ย่อมสร้างแรงกดดันต่อราคา และเป็นอุปสรรคต่อการขยับขึ้นอย่างราบรื่นของตลาดในระยะใกล้
ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดอนุพันธ์เริ่มส่งสัญญาณผิดปกติ เมื่อ *ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility)* ของออปชันบิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบหลายปี สถานการณ์นี้อาจกลายเป็น ‘เชื้อเพลิง’ สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่รออยู่ภายใต้ความเงียบสงบ โดยปกติ ความผันผวนโดยนัยที่ลดต่ำแสดงว่า เทรดเดอร์ไม่คาดการณ์ความเคลื่อนไหวรุนแรงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจแปลได้ว่า ตลาดกำลังปูทางไปสู่การ *ระเบิดของความผันผวน* อย่างฉับพลัน
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดเตือนว่า หลังจากภาวะนิ่งเงียบเช่นนี้ ตลาดอาจเผชิญกับ *การกลับทิศทางของราคาที่คาดเดายาก* โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ *ประธานาธิบดีทรัมป์* มีโอกาสกลับมาชนะเลือกตั้ง และอาจนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อกฎระเบียบคริปโต จึงมีความเป็นไปได้ที่สภาพแวดล้อมมหภาคจะเอื้อประโยชน์ต่อบิตคอยน์มากขึ้น นำไปสู่คำเตือนให้นักลงทุนเฝ้าระวังการ *พุ่งสูงของความผันผวน* และปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0