จีนเดินหน้าเชิงรุกในการขยายการใช้งาน ‘เงินหยวนดิจิทัล’ สู่เวทีโลก ด้วยการตั้งศูนย์ปฏิบัติการรวมเงินดิจิทัลแห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อผลักดันให้จีนกลายเป็นศูนย์กลางการชำระเงินระดับโลก และขับเคลื่อนการ *ทำให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ* อย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อวันที่ 27 ธนาคารกลางจีนประกาศว่า *ศูนย์แห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้* จะทำหน้าที่ดูแลระบบชำระเงินข้ามพรมแดน บริการที่ใช้ ‘บล็อกเชน’ และแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล โดยข่าวนี้ถูกรายงานโดยสำนักข่าวซินหัวของจีน ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของเงินหยวนดิจิทัล พร้อมเสริมบทบาทของหยวนในระบบการเงินโลกให้มี *อิทธิพลมากขึ้น*
ก่อนหน้านี้ พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ในเดือนมิถุนายนว่า เงินหยวนดิจิทัลควรเป็นแรงสนับสนุนสำคัญของระบบหลายสกุลเงินที่ดำรงอยู่ร่วมกันในเวทีเศรษฐกิจโลก พร้อมชี้ชัดว่าสำนักงานเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ คือหนึ่งในภารกิจสำคัญของ ‘ยุทธศาสตร์ 8 ด้าน’ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง
เถียน ซวียน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการเงินระดับชาติแห่งมหาวิทยาลัยชิงหัว แสดงความ *ความคิดเห็น* ว่า การจัดตั้งศูนย์นี้คือ ‘หลักไมล์สำคัญ’ ที่จะยกระดับอิทธิพลของจีนในเวทีการเงินระหว่างประเทศ พร้อมระบุว่านี่อาจกลายเป็นรูปแบบทางเลือกของระบบชำระเงินข้ามพรมแดนที่ไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน จีนยังเดินหน้าศึกษาการออก *สเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินหยวน* เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ โดย *เป้าหมายคือการสร้างระบบชำระเงินที่ยึดโยงกับเงินหยวน* ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters เมื่อเดือนสิงหาคม 2025 จีนมีแผนพัฒนาเหรียญที่ผูกกับค่าเงินหยวนในรูปแบบ stablecoin อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าเคยสั่งแบนการขุดและซื้อขายคริปโตในปี 2021 แต่ปัจจุบันท่าทีของรัฐบาลก็เริ่ม *ผ่อนคลายลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป*
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนว่าจีนกำลังใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวหอกในการเขย่าระบบการเงินโลกที่เคยอยู่ภายใต้การนำของสหรัฐฯ โดยการใช้ ‘เงินหยวนดิจิทัล’ และ ‘สเตเบิลคอยน์’ เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์ จึงเป็นสิ่งที่ทั่วโลกยังต้องจับตามองว่า *ดอลลาร์จะยังคงรักษาฐานะผู้นำทางการเงิน* ไว้ได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0