ตลาดคริปโตในสหรัฐฯ กำลังเร่งตัวเข้าสู่ช่วงของการรับรองด้านกฎหมายและการกำกับดูแลอย่างชัดเจน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าในไตรมาส 4 นี้ ประเด็นด้านข้อบังคับ, การเติบโตของสเตเบิลคอยน์ และผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบอ้างอิงดัชนีหรือ ETP จะกลายเป็น ‘ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ’ ของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่ความสนใจต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้การผลักดันกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด
เมื่อวันที่ 4 ตามรายงานของบริษัทจัดการสินทรัพย์ เกรย์สเกล(Grayscale) ระบุว่า ร่างกฎหมาย CLARITY Act ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในสภาคองเกรส อาจกลายเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ในการหลอมรวมอุตสาหกรรมคริปโตเข้ากับระบบการเงินดั้งเดิม เนื่องจากร่างกฎหมายนี้ให้คำนิยามที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในด้านอำนาจการกำกับ และเกณฑ์การขึ้นทะเบียน ซึ่งอาจช่วยลดอุปสรรคในการเข้าร่วมของบริษัทการเงินแบบดั้งเดิม
ขณะเดียวกัน การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้ ‘อนุมัติเกณฑ์การจดทะเบียนทั่วไปของ ETP’ ก็สร้างแรงกระเพื่อมต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะส่งผลให้จำนวนของ ETP ที่อิงกับสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความเคลื่อนไหวนี้จะเอื้อให้นักลงทุนสหรัฐฯ เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับคริปโตได้สะดวกขึ้น และเปิดทางให้กับ ETP ที่อิงกับคริปโตนอกเหนือจากบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) เช่น โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) หรือโครงการอนาคตอื่นๆ
ปัจจัยด้านนโยบายการเงินก็ยังคงเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ ของบรรยากาศในตลาด ซึ่งกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจ ‘ปรับลดอัตราดอกเบี้ย’ ลงในการประชุมวันที่ 17 กันยายน นี้ กำลังส่งผลกระตุ้นต่อจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเกรย์สเกลให้ความเห็นว่า “หากการลดดอกเบี้ยเริ่มต้นขึ้นจริง ความต้องการเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงอาจชะลอตัวลง และเงินบางส่วนอาจไหลเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งจะเป็นแรงส่งแนวโน้มราคาครั้งสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เจมี ไดมอน(Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เจพีมอร์แกน ชี้ว่า อาจต้องใช้เวลาอีกพอสมควรก่อนที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยจริง โดยให้เหตุผลว่า “เว้นแต่เงินเฟ้อจะปรับลดอย่างเห็นได้ชัด มิเช่นนั้นเฟดคงจะไม่สามารถปรับลดดอกเบี้ยได้ง่ายนัก” ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีระมัดระวังจากธนาคารขนาดใหญ่
ในภาพรวม ผู้เข้าร่วมตลาดเริ่มจับตาการเคลื่อนไหวของนโยบายควบคู่กับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ว่าจะสามารถจุดประกาย ‘โมเมนตัมขาขึ้น’ ต่อสินทรัพย์ดิจิทัลได้มากเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงจุดยืนที่ ‘เป็นมิตร’ กับอุตสาหกรรมคริปโต สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งอิทธิพลต่อแนวทางนโยบายในช่วงก่อนการเลือกตั้ง และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0