ก่อนการเปิดตัวอัปเกรด ‘ฟูซากะ(Fusaka)’ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญของอีเธอเรียม(ETH) ระบบทดสอบเครือข่ายหลัก (Testnet) ได้รับการปรับใช้เวอร์ชั่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดย ‘นิมุส(Nimbus)’ ซึ่งเป็นคลไคลเอนต์ในชั้นฉันทามติของอีเธอเรียม ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นล่าสุด ‘CL v25.9.1’ เมื่อไม่นานนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทดลองใช้ฟูซากะ ตอกย้ำเป้าหมายในการเพิ่มความเสถียรและความสอดคล้องของเครือข่ายก่อนการอัปเกรดจริง
นิมุสระบุว่า แม้อัปเดตเวอร์ชั่นนี้จะไม่ได้เร่งด่วนสำหรับผู้ใช้งานในเมนเน็ต แต่สำหรับเครือข่ายทดสอบอย่าง ‘ฮูดี(Hoodi)’, ‘เซโพลเลีย(Sepolia)’ และ ‘โฮเลสกี(Holesky)’ นั้น จำเป็นต้องมี *การอัปเกรดในทันที* โดยเฉพาะในโฮเลสกี ซึ่งมีกำหนดยุติการใช้งานในวันที่ 30 กันยายน 2025 และจะถูกแทนที่ด้วยฮูดี ซึ่งจะกลายเป็นสนามทดลองสำหรับ ‘ตัวตรวจสอบธุรกรรม (Validator)’ การอัปเดตเหล่านี้มีความจำเป็นต่อนักพัฒนา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในขั้นตอนจริงของอัปเกรดหลัก
ในเวอร์ชั่นใหม่นี้มีการแก้ไขข้อผิดพลาดด้านการซิงค์ ปรับปรุง ‘Beacon API’ และเสริมความมั่นคงต่อการทำงานโดยรวม *เน้นที่การเตรียมความพร้อมสำหรับโหลดเครือข่ายที่รองรับฟูซากะ* เป็นการวางรากฐานด้านเทคนิคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขยายเครือข่ายของอีเธอเรียม
อัปเกรดฟูซากะถือเป็นการต่อยอดจากฮาร์ดฟอร์ค ‘เพกทรา(Pectra)’ ที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยเพกทราได้แนะนำฟีเจอร์อย่าง Account Abstraction และปรับเพดานการสเตกโทเคน ในขณะที่ฟูซากะจะโฟกัสไปที่ *การขยายระบบและการปรับปรุงความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล*
บิทาลิก บูเทอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียมได้อธิบายว่า ฟูซากะจะนำแนวคิด ‘PeerDAS (การแบ่งตัวอย่างข้อมูลแบบ peer-to-peer)’ มาใช้ ซึ่งช่วยให้โหนดสามารถตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกโดยไม่ต้องดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมด ลดภาระด้านพื้นที่จัดเก็บและแบนด์วิธได้อย่างมีนัยสำคัญ
ฮาร์ดฟอร์คของฟูซากะมีกำหนดเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2025 หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วย *เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของโหนดโดยไม่กระทบต่อสมาร์ตคอนแทรกต์* โดยจะรวมถึงการปรับค่าพารามิเตอร์ blob ที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอ EIP-7892 ซึ่งเป็นพื้นฐานรองรับการอัปเกรดในอนาคตของโรดแมปอีเธอเรียม
การเปิดตัว CL v25.9.1 สำหรับแพลตฟอร์มทดลองนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอีเธอเรียมยังคงยึดตามโรดแมปที่วางไว้ และให้ความสำคัญกับ ‘ความเสถียร’ ของระบบอย่างต่อเนื่อง นิมุสจึงแนะนำให้ผู้พัฒนาและผู้ตรวจสอบธุรกรรมรีบเปลี่ยนมาใช้เวอร์ชั่นใหม่นี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในเฟสถัดไปของการอัปเกรด
ความคิดเห็น 0