กระแสข่าวเรื่องการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ‘อาสเตอร์(ASTER)’ กำลังร้อนแรงบนโลกออนไลน์ หลังจากมีข่าวลือว่า มิสเตอร์บีสต์(MrBeast) ยูทูบเบอร์ชื่อดังและนักการกุศลชื่อเสียงระดับโลกเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการซื้อเหรียญดังกล่าว โดยเหรียญอาสเตอร์เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 17 กันยายน และราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงกว่า 8,000% ภายในเวลาเพียง 4 วัน ดันมูลค่าตลาดแตะระดับ 3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4.17 แสนล้านบาท) และยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ตามข้อมูลจาก *Lookonchain* แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน พบว่ามีกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับมิสเตอร์บีสต์ลงทุนในอาสเตอร์มากถึง 1 ล้าน USDT (ราว 13.9 ล้านบาท) ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ซื้อเหรียญไปทั้งสิ้น 538,384 ASTER คิดเป็นราคาซื้อเฉลี่ยประมาณเหรียญละ 1.87 ดอลลาร์ (เกือบ 2,600 บาท) ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่โครงการเริ่มเป็นที่สนใจในวงกว้างพอดี
เหรียญอาสเตอร์เปิดราคาที่ประมาณ 0.02 ดอลลาร์ และในเวลาเพียงไม่กี่วันก็ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเกิน 2 ดอลลาร์ ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ราว 1.80 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,500 บาท) และมีผู้ถือครองมากกว่า 80,000 กระเป๋าทั่วโลก อาสเตอร์ยังพุ่งติดอันดับคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดใน 40 อันดับแรกอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ทำให้อาสเตอร์กลายเป็น ‘ดาวรุ่ง’ อีกประการคือการได้รับการสนับสนุนโดยทางอ้อมจาก *จางเผิง จ้าว (CZ)* ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์(Binance) โดย CZ ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียของตนเองที่กล่าวถึงอาสเตอร์ควบคู่กับไบแนนซ์คอยน์(BNB) ซึ่งในสายตานักลงทุนแล้วถือเป็นสัญญาณสนับสนุนอย่างเปิดเผย ส่งผลให้ความต้องการซื้อเหรียญนี้เพิ่มขึ้นในทันที
อาสเตอร์เป็นโครงการแพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์แบบถาวร (Perpetual Decentralized Exchange) ที่พัฒนาโดย *YZi แล็บส์* ซึ่งเป็นบริษัทต่อยอดจากอดีตห้องทดลองของไบแนนซ์ (Binance Labs) โดยมีจำนวนเหรียญจำกัดที่ 8 พันล้าน ASTER และมีเหรียญหมุนเวียนในตลาดขณะนี้ราว 1.65 พันล้าน ASTER ซึ่งครึ่งหนึ่งถูกจัดสรรให้กับกิจกรรมชุมชน ส่วนที่เหลือจะถูกกระจายอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายในระยะเวลา 7 ปี
ในขณะที่หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความยั่งยืนและประสิทธิภาพของอาสเตอร์ โดยเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มเดิมอย่าง *ไฮเปอร์ลิควิด (Hyperliquid)* แต่ชื่อเสียงของมิสเตอร์บีสต์กลับทำให้เหรียญนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และกระตุ้น ‘FOMO’ (Fear of Missing Out) หรือความกลัวว่าจะพลาดโอกาสในตลาดของนักลงทุนอย่างชัดเจน
แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นของมิสเตอร์บีสต์ตัวจริงหรือไม่ แต่เพียงแค่ชื่อของเขาปรากฏขึ้นในข่าวเชื่อมโยงกับเหรียญ ก็มากพอที่จะทำให้อาสเตอร์กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างตั้งคำถามว่า “เขาซื้อจริงไหม?” และเฝ้ามองพัฒนาการของเหรียญนี้อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0