ซิตี้กรุ๊ป ปรับเพิ่มคาดการณ์ตลาดสเตเบิลคอยน์ คาดทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
ซิตี้กรุ๊ป ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์มูลค่าตลาดของ ‘สเตเบิลคอยน์’ หลังสังเกตเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยในรายงานล่าสุดของบริษัท วางเป้าหมายใน *สถานการณ์ที่เป็นบวก (bull)* ว่ามูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์อาจพุ่งทะลุถึง *4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,560 ล้านล้านวอน)* ภายในปี 2030
รายงานฉบับนี้ได้เพิ่มตัวเลขคาดการณ์จากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,224 ล้านล้านวอน) และ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,143 ล้านล้านวอน) เป็น 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,641 ล้านล้านวอน) และ 4 ล้านล้านดอลลาร์ตามลำดับ โดยเหตุผลหลักมาจากการเติบโตของ *การเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (DeFi)* และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ *โซลูชันบล็อกเชนภาคธุรกิจ*
ซิตี้กรุ๊ป เชื่อว่า *สเตเบิลคอยน์จะไม่ใช่ตัวบ่อนทำลายระบบธนาคารแบบดั้งเดิม* แต่จะมีบทบาทเป็นเครื่องมือ *ในการปรับโครงสร้างระบบการเงิน* เสียมากกว่า ซึ่งเป็นมุมมองที่ตรงกันข้ามกับความกังวลจากภาคการเงินดั้งเดิมบางส่วน ที่เชื่อว่าสเตเบิลคอยน์อาจชะลอความสามารถของธนาคารแบบเดิม
ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า “แม้ยังมีผู้คลางแคลงใจที่ย้ำว่าสเตเบิลคอยน์จะทำลายบทบาทของธนาคารดั้งเดิม เรากลับมองว่า คริปโตเคอร์เรนซีช่วย *รื้อภาพเก่าของระบบการเงินเพื่อออกแบบใหม่* มากกว่าที่จะทำลายมัน”
ในความเป็นจริง ตลาดสเตเบิลคอยน์ในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจน โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์ม RWA.XYZ ระบุว่าในเดือนกันยายน มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์ *ทะลุ 287,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,989 ล้านล้านวอน)* ซึ่งเข้าใกล้ ‘ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์’ สะท้อนการขยายตัวของเหรียญสกุลเงินหลัก อย่าง เทเธอร์(USDT), USD คอยน์(USDC) และ ได(DAI) รวมถึง *การประยุกต์ใช้งานสเตเบิลคอยน์ที่หลากหลายมากขึ้นในภาคการเงิน*
ซิตี้กรุ๊ปยังมองถึงการเติบโตของ *เงินฝากธนาคารแบบโทเคน (tokenized bank deposits)* ว่าจะทำหน้าที่ *เสริมบทบาทของสเตเบิลคอยน์* และกลายเป็น *รากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดิจิทัล* ในอนาคต โดยได้ระบุว่าโครงการทดลองของธนาคารชั้นนำใน *สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร* อาจเป็นก้าวแรกของการผสานโลกบล็อกเชนเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิม
*ความคิดเห็น:* รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการเปลี่ยนผ่านของระบบการเงินในระดับโลกอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมี ‘สเตเบิลคอยน์’ เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่กำลังปรับภาพลักษณ์ของคริปโตเคอร์เรนซีจากสินทรัพย์เสี่ยง ไปสู่ *เครื่องมือสร้างเสถียรภาพทางการเงิน* และขับเคลื่อนโครงสร้างเศรษฐกิจยุคดิจิทัลในอนาคต
ความคิดเห็น 0