Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 12% สู่แนวรับสำคัญ ท่ามกลางแรงเทขายระยะสั้นและกระแส ETF ชะลอตัว

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 12% สู่แนวรับสำคัญ ท่ามกลางแรงเทขายระยะสั้นและกระแส ETF ชะลอตัว / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงราว 12% ในช่วงไม่นานนี้ ท่ามกลางสัญญาณ ‘ความเหนื่อยล้า’ ที่กำลังปกคลุมตลาดคริปโตอีกครั้ง โดยความคาดหวังต่อกระแสเงินทุนจาก ETF ที่เคยสร้างความตื่นเต้นกลับชะลอตัวลง ประกอบกับแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนรายใหญ่ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาถูกครอบงำด้วย ‘สภาพคล่องระยะสั้น’ อย่างเห็นได้ชัด แม้ข้อมูลบนเชนยังชี้ว่าแนวโน้มหยุดพักยังไม่รุนแรงเกินไปนัก แต่รูปแบบการขายที่เกิดซ้ำและแรงกดดันสะสม อาจสะท้อนถึงช่วงพักฐานในระยะสั้น

บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน แกลสโนด(Glassnode) เปิดเผยว่า ณ ขณะนี้ ‘มูลค่าตลาดจากการขายจริง’ (Realized Cap) ของบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 1.06 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,474 ล้านล้านวอน ซึ่งบ่งชี้ว่า มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิในช่วงรอบล่าสุดนี้มากขึ้นถึง 6.78 แสนล้านดอลลาร์ เทียบกับรอบก่อนหน้า นำไปสู่แรงขับจากการทำกำไรของนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ถือครองระยะยาวที่ขายบิตคอยน์ไปแล้วกว่า 3.4 ล้าน BTC ซึ่งนับเป็นหนึ่งในรอบการเทขายขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของคริปโต

ประเด็นสำคัญที่ได้รับการจับตา คือการชะลอตัวของตลาด ETF ที่เคยทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ราคาหลัก โดยหลังการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) พบว่าการไหลเข้าของ ETF ลดลงจนแทบเป็นศูนย์ ขณะเดียวกัน นักลงทุนระยะยาวขายบิตคอยน์มากถึง 1.22 แสน BTC ต่อเดือน แกลสโนดเตือนว่า “ภาวะที่อุปสงค์อ่อนแอ ขณะที่อุปทานเร่งออกมาโดยไม่มีสมดุล อาจเร่งแรงกดดันด้านราคาลงได้อย่างง่ายดาย”

ในตลาดซื้อขายจริง (Spot Market) ปัจจุบัน พบว่าราวครึ่งหนึ่งของบิตคอยน์ที่ถูกแปลงสภาพให้สามารถขายได้ กลับถูกเทออกโดยไม่ได้รับการดูดซับจากตลาด ส่งผลให้มีการขายต่อเนื่อง และแนวโน้มการถูกบังคับขายสูงขึ้น ด้วยปริมาณซื้อขายที่เร่งตัว ขณะเดียวกัน ตลอดแนวตลาดฟิวเจอร์สยังเห็นได้ถึงการ ‘ลดเลเวอเรจ’ รุนแรง และการเปลี่ยนแปลงค่าเบี้ยประกันออปชัน ซึ่งสะท้อนถึงการสั่นคลอนของความเชื่อมั่น

ข้อมูลบ่งชี้ชัดว่ากลุ่มผู้ขายเพื่อทำกำไรระยะสั้นยังคงเป็นแรงหลัก ขณะที่กลุ่มนักลงทุน ‘วาฬ’ เริ่มขยับเข้าหาโอกาส โดยข้อมูลบนเชนเผยว่า ที่อยู่กระเป๋าสตางค์ที่ถือครองบิตคอยน์ตั้งแต่ 100-1,000 BTC ได้มีการ ‘สะสมเพิ่มขึ้น’ ราว 30,000 BTC ภายในสัปดาห์เดียว หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.18 ล้านล้านวอน ขณะที่ปริมาณการโอนทั้งหมดพุ่งจาก 4.4 แสน BTC เป็นถึง 7.7 แสน BTC แสดงถึงความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ในลักษณะ ‘โยกย้าย’ มากกว่าการขายออก

ผู้เชี่ยวชาญจากตลาดระบุว่า บิตคอยน์กำลังทดสอบจุดรับที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 สัปดาห์ อยู่ที่ราว 109,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15.2 ล้านบาท โดยแพลตฟอร์มซื้อขายบิทูนิคซ์(Bitunix) ระบุว่าแนวรับทางสภาพคล่องสำคัญอยู่ราว 108,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แนวต้านด้านบนที่ 116,000 ดอลลาร์ กลับยังคงแข็งแกร่ง หากไม่มีการฟื้นตัวของอุปสงค์จากนักลงทุนสถาบัน

ท้ายที่สุด ทิศทางของตลาดจะขึ้นกับ ‘ความฟื้นตัวของฝั่งซื้อ’ แกลสโนดย้ำว่า “หากกระแสเงินจากสถาบันหรือแรงซื้อลงทุนระยะยาวไม่กลับมา การปรับฐานอาจลากยาวได้” โดยระบุว่าตลาดในช่วงนี้เน้นมุมมอง ‘ความเหนื่อยล้ามากกว่าความยั่งยืน’ เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการสะสมของบรรดาวาฬ พร้อมกับการที่นักลงทุนระยะสั้นเริ่ม ‘เข้าใกล้จุดขาดทุน’ กำลังถูกจับตา ว่าอาจเป็น ‘สัญญาณการฟื้นตัวแบบเฉพาะกลุ่ม’ ได้เช่นกัน ความเห็นระบุว่าการกลับมาของตลาดอย่างยั่งยืน จะต้องมี ‘กระแสเงินทุนใหม่’ ที่มีน้ำหนักพอต่อการหนุนราคา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นต้อง ‘ระมัดระวัง’ ในการตีความการดีดตัวช่วงนี้เป็นอย่างยิ่ง.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1