โดชคอยน์(DOGE) ร่วงลงกว่า 6% ภายใน 24 ชั่วโมง ลดลงสู่ระดับ 0.226 ดอลลาร์ การปรับฐานครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนในตลาดคริปโต โดยเฉพาะภาคของ ‘มีมคอยน์’ ซึ่งปัจจุบันเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก
ช่วงที่ผ่านมา ตลาดมีมคอยน์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ‘รั๊กพูล’ หลายกรณี โดยมีรายงานว่า กลุ่มแฮกเกอร์ ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ จากเกาหลีเหนืออาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แซคเอ็กซ์บีที(JackXBT) นักวิเคราะห์บล็อกเชน เปิดเผยว่า กลุ่มดังกล่าวอาจมีการใช้มีมคอยน์ที่อยู่บนเชนของโซลานา(SOL) เพื่อดำเนินการฉ้อโกง ความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนแห่ถอนตัว ส่งผลต่อโดชคอยน์ รวมถึงมีมคอยน์ตัวอื่นอย่างชิบะอินุ(SHIB) และเปเป้(PEPE) ที่ต่างเผชิญกับแรงขายเช่นกัน
ปริมาณการซื้อขายของโดชคอยน์ยังลดลงท่ามกลางภาวะตลาดหดตัว ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ ระบุว่า มีธุรกรรมของวาฬที่มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เพียง 66 รายการ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน การลดลงของปริมาณการซื้อขายสะท้อนถึงความต้องการที่อ่อนแอ กดดันราคาต่อเนื่อง
ตลาดอนุพันธ์เองก็ส่งสัญญาณเชิงลบด้วยเช่นกัน โดยมูลค่ามิเปิดสัญญา(OI) ของโดชคอยน์ ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ อยู่ที่ 2.21 พันล้านดอลลาร์ ลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดของเดือนก่อนที่ 5.42 พันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนของตลาดฟิวเจอร์สยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงภาวะที่แรงขายมีอิทธิพลเหนือแรงซื้อ
จากมุมมองทางเทคนิค โดชคอยน์กำลังทดสอบระดับแนวรับสำคัญที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ (EMA) ณ จุด 0.2197 ดอลลาร์ หากแนวรับนี้ถูกทะลุ ราคามีโอกาสร่วงลงอีก 35% ไปสู่เป้าหมายถัดไปที่ 0.1459 ดอลลาร์ และอาจลงไปทดสอบแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ ที่ 0.1358 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์มองว่า การฟื้นตัวของโดชคอยน์จำเป็นต้องกลับไปยืนเหนือระดับแนวต้าน 0.2670 ดอลลาร์ และเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวรับ อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพตลาดที่ยังคงอยู่ในภาวะขาดความเชื่อมั่น โอกาสที่จะเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้นยังคงจำกัด
ความคิดเห็น 0