บิตคอยน์(BTC) ยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับแนวโน้มขาขึ้น หลังสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 117,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.63 ล้านบาท) ได้สำเร็จ ความเคลื่อนไหวนี้ได้จุดประกายความหวังของตลาดต่อการกลับไปทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 124,474 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.73 ล้านบาท) อีกครั้ง
บิตคอยน์จดบันทึกการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมา และยังคงได้รับแรงหนุนจากการซื้ออย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันแรกของการซื้อขายในเดือนตุลาคม โดยการพุ่งขึ้นครั้งนี้มิใช่เพียงแนวโน้มเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการฟื้นตัวของ ‘ความเชื่อมั่น’ จากนักลงทุนในตลาดอีกด้วย โดยเฉพาะการทะลุระดับ 117,500 ดอลลาร์ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ *โมเมนตัมขาขึ้น*
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ออนเชนอย่างคอยน์กลาส(CoinGlass) ระบุว่า หากราคาบิตคอยน์ปิดเดือนกันยายนในแดนบวก ในไตรมาสสุดท้ายของปีมักจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเฉลี่ยถึง 53% หากสถิตินี้ยังคงแม่นยำ ราคาบิตคอยน์อาจพุ่งไปแตะถึง 170,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.36 ล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้ *ความคิดเห็น: ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมแนวโน้มบวกในระยะกลางถึงยาว*
ตลาดอัลท์คอยน์ก็แสดงสัญญาณฟื้นตัวที่น่าจับตาเช่นกัน โดยโทเคนหลักอย่างอาวาแลนเช(AVAX), เชนลิงก์(LINK) และเนียร์โปรโตคอล(NEAR) ต่างสามารถเปลี่ยนแนวโน้มสู่ *ภาวะขาขึ้น* จากแรงซื้อที่เริ่มแสดงให้เห็นบริเวณจุดต่ำสุดก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงการกระจายตัวของ ‘ความเสี่ยงในเชิงบวก’ จากบิตคอยน์สู่สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า การรีบาวด์ครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงแค่เหตุการณ์ในระยะสั้น เนื่องจากความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจภายนอก เช่นเดียวกับ *บทบาทของประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ออกมาสนับสนุนบิตคอยน์ต่อสาธารณะ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลต่อ ‘จิตวิทยาตลาด’
หากบิตคอยน์สามารถรักษาทิศทางขาขึ้นเช่นนี้ต่อไปได้ ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนจำนวนมาก โดยกระแสการเคลื่อนไหวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อาจเป็น ‘ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ’ ของการกลับไปทดสอบ *ราคาสูงสุดตลอดกาล* อีกครั้ง
ความคิดเห็น 0