Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ซูเปอร์เชนของออพทิมิซึม(Optimism) อาจครอง 80% ของธุรกรรมอีเธอเรียม เลเยอร์ 2 ภายในสิ้นปี

Tue, 25 Feb 2025, 03:57 am UTC

ซูเปอร์เชนของออพทิมิซึม(Optimism) อาจครอง 80% ของธุรกรรมอีเธอเรียม เลเยอร์ 2 ภายในสิ้นปี / Tokenpost

ออพทิมิซึม(Optimism) หนึ่งในโซลูชันเลเยอร์ 2(L2) ของอีเธอเรียม(ETH) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและขยายส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์หลักของออพทิมิซึมที่เรียกว่า ‘ซูเปอร์เชน(Superchain)’ คาดว่าจะครอง 80% ของปริมาณธุรกรรมบนอีเธอเรียมเลเยอร์ 2 ภายในสิ้นปีนี้

ไรอัน ไวแอตต์(Ryan Wyatt) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตของออพทิมิซึม เปิดเผยกับ Cointelegraph ว่า “ปัจจุบัน ซูเปอร์เชนคิดเป็น 60% ของปริมาณธุรกรรมอีเธอเรียม L2 และเราคาดว่าอัตราส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ภายในปลายปี” ข้อมูลล่าสุดระบุว่ามูลค่ารวมที่ถูกล็อก(TVL) บนซูเปอร์เชนพุ่งทะลุ 4 พันล้านดอลลาร์(ราว 5.76 แสนล้านบาท) ขณะที่ปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 11.5 ล้านรายการ

ซูเปอร์เชนเป็นระบบนิเวศประกอบด้วยโปรเจกต์ L2 ที่พัฒนาบน ‘OP สแต็ก(OP Stack)’ ของออพทิมิซึม โดยมีบริษัทและองค์กรชั้นนำอย่าง คอยน์เบส(Coinbase), คราเคน(Kraken), โซนี่(Sony), ยูนิสวอป(Uniswap) และโปรเจกต์ของแซม อัลท์แมน(Sam Altman) อย่างเวิลด์คอยน์(Worldcoin) เข้ามาร่วมในเครือข่าย ไวแอตต์กล่าวว่า “ทุกเครือข่ายที่อยู่ในซูเปอร์เชนมีส่วนร่วมในการสร้างระบบหมุนเวียนผ่านการแบ่งปันรายได้ การกำกับดูแล และการสนับสนุนการพัฒนา OP สแต็ก”

ตลาดอีเธอเรียม L2 เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา ข้อมูลอุตสาหกรรมระบุว่า ณ เดือนธันวาคม 2023 มูลค่า TVL ของเครือข่าย L2 ทั้งหมดแตะ 55.5 พันล้านดอลลาร์(ราว 8 ล้านล้านบาท) แม้มีการปรับฐาน แต่ยังสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 30% นักวิเคราะห์คาดว่าการพัฒนาด้าน ‘ความสามารถในการทำงานร่วมกัน’ (interoperability) ระหว่างเลเยอร์ 2 จะช่วยขยายระบบนิเวศไปอีกขั้น เมลเลช ไพ(Mallesh Pai) นักวิจัยจาก Consensys บริษัทพัฒนากระเป๋าสตางค์คริปโตเมตามาสก์(MetaMask) เผยว่า “คาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดใช้งานการแลกเปลี่ยนข้ามเชนระหว่างเลเยอร์ 2”

ตลาดการเงินกระจายศูนย์(DeFi) ก็มุ่งสู่ L2 มากขึ้นตามแนวโน้มดังกล่าว ข้อมูลจาก DefiLlama ระบุว่า ปัจจุบัน ระบบนิเวศของอีเธอเรียมครอง 53% ของ TVL ทั้งหมดของ DeFi โดยมีปริมาณธุรกรรม DeFi ไหลเข้าสู่เลเยอร์ 2 อย่างมีนัยสำคัญ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้านคริปโต Finematics วิเคราะห์ว่า “เครือข่าย L2 ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านขยายตัวของอีเธอเรียมและรองรับการทำธุรกรรม DeFi ได้มากขึ้น”

นอกจากนี้ การใช้สเตเบิลคอยน์ก็กำลังเพิ่มขึ้นในเครือข่าย L2 ณ เดือนธันวาคม 2023 มูลค่ารวมของสเตเบิลคอยน์ที่ถูกล็อกอยู่ในอีเธอเรียม L2 สูงถึง 13.5 พันล้านดอลลาร์(ราว 1.94 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าบีเอ็นบี สมาร์ทเชน(BNB Smart Chain), โซลานา(SOL) และอวาแลนช์(AVAX) อย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบัน ตลาดสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกมีมูลค่าสูงกว่า 226 พันล้านดอลลาร์(ราว 32.4 ล้านล้านบาท) โดยมีสัดส่วนจำนวนมากถูกโอนไปยังเลเยอร์ 2 แนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องของตลาด L2 ช่วยเสริมความสามารถของอีเธอเรียมในการรองรับธุรกรรมขนาดใหญ่และขยายการใช้งาน DeFi ไปอีกระดับ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1