ครบรอบ 14 ปีของ ไลต์คอยน์(LTC) ซึ่งเริ่มต้นเครือข่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2011 โดย ชาร์ลี ลี(Charlie Lee) ผู้ก่อตั้ง ได้ขุดบล็อกแรก หรือที่เรียกว่า ‘เจเนซิสบล็อก’ ซึ่งยังคงเป็นองค์ประกอบหลักที่รองรับความปลอดภัยของเครือข่าย, กลไกฉันทามติ และความสมบูรณ์ของระบบไลต์คอยน์มาจนถึงทุกวันนี้
จากจุดเริ่มต้น ไลต์คอยน์มักถูกเปรียบเป็น ‘เงิน’ เคียงข้างกับ ‘ทองคำ’ อย่าง บิตคอยน์(BTC) โดยเน้นประสิทธิภาพด้านความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงกว่า ที่สำคัญ ไลต์คอยน์เลือกใช้ อัลกอริธึม Scrypt ในการขุด ทำให้สามารถรับมือกับเครื่อง ASIC ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นแนวคิดใหม่และน่าสนใจในเวลานั้น
หลังจากผ่านไป 14 ปี ไลต์คอยน์ยังคงอยู่ในกลุ่มของเหรียญยอดนิยม โดยในช่วงต้นเดือนตุลาคมปีนี้ ‘ความยากในการขุด’ (Mining Difficulty) ได้ทะลุระดับ 100 ล้านเป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของเครือข่าย และมี *แฮชพาวเวอร์* ที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าระบบยังมีความแข็งแรงและมีการใช้งานอยู่เสมอ
ในท่ามกลางบรรยากาศเชิงบวก ความคาดหวังต่อ *ผลิตภัณฑ์การลงทุนจากสถาบัน* ก็กลับมาอีกครั้ง ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ยังไม่สามารถสรุปเรื่องการอนุมัติ ETF แบบสปอตซึ่ง Canary Capital ยื่นขอไว้ได้ทันตามกำหนด แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าสาเหตุของความล่าช้าคือผลจากการปิดหน่วยงานรัฐ หรือการพิจารณาภายใต้ ‘หลักเกณฑ์การจดทะเบียนทั่วไป’ แบบใหม่ก็ตาม ขณะที่ REX-Osprey ซึ่งเป็นผู้ยื่น ETF อีกราย พยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบด้วยการใช้กรอบของ ‘พระราชบัญญัติบริษัทลงทุนปี 1940’ เพื่อยื่นขออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ไลต์คอยน์มีราคาลดลง 2.86% อยู่ที่ 116 ดอลลาร์ หรือราว 161,240 บาท แม้จะลดลงในรายวัน แต่เมื่อพิจารณาภาพรวมรายสัปดาห์ ก็คงแนวโน้ม *บวก* ไว้ที่ 11% ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ไลต์คอยน์ยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์
แม้เวลาจะผ่านไป 14 ปี ไลต์คอยน์ก็ยังคงยืนหยัดในฐานะเหรียญที่ไม่ได้เป็นแค่ ‘ทางเลือกของบิตคอยน์’ แต่เป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง ด้วยความแข็งแกร่งทั้งในแง่ของเทคโนโลยีและการยอมรับในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0