ราคาอีเธอเรียม(ETH) ร่วงหนักใกล้หลุดระดับแนวรับทางจิตวิทยาที่ ‘4,000 ดอลลาร์’ ท่ามกลางแรงเทขายทั่วตลาดคริปโต โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อีเธอเรียมลดลงมาแตะระดับ 4,096 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.69 ล้านบาท) จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ตามรายงานของ CoinGlass สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาอีเธอเรียมร่วงในครั้งนี้มาจากสัญญาณจากรัฐบาลไบเดนถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอย่างมีนัยยะ ทำให้ดัชนีแนสแด็กซึ่งเต็มไปด้วยหุ้นสายเทคโนโลยีร่วงลงฉับพลัน ส่งผลต่อเนื่องมายังตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต โดยในช่วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมงมีการ *ล้างโพซิชัน* รวมกว่า 188 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,617 ล้านบาท)
เบื้องหลังของความตึงเครียดนี้คือการที่สหรัฐฯ ตอบโต้การควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน ด้วยมาตรการด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การที่สหรัฐฯ วิจารณ์จีนว่า *นำเศรษฐกิจโลกมาเป็นตัวประกัน* ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ที่ลุกลามเกินกว่าแค่การทูต ความไม่แน่นอนในระดับการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นตัวเร่งให้ผู้ลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ส่งผลให้ ‘แรงขาย’ ในสินทรัพย์ดิจิทัลขยายตัวมากขึ้น
*ความคิดเห็น* ผู้เชี่ยวชาญบางรายเห็นว่าการร่วงลงครั้งนี้อาจ *เกินจริง* กว่าความเป็นจริงในเชิงพื้นฐาน โดยอดัม โคเบย์ซี(Adam Kobeissi) วิเคราะห์ว่า การขู่ขึ้นภาษีอาจเป็นเพียงไพ่ต่อรองเชิงยุทธศาสตร์ อีกทั้งมีแนวโน้มที่สหรัฐฯ และจีนจะกลับมาเจรจากันอีกครั้ง แม้จะผ่านการเผชิญหน้าหลายรอบก็ตาม ความเห็นหนึ่งระบุว่า “*เป็นไปได้ยากที่เพียงคำพูดทางการเมืองครั้งเดียว จะนำไปสู่การร่วงลงระยะยาวของตลาดได้จริง*”
แม้การปรับฐานของอีเธอเรียมในครั้งนี้สะท้อนถึงความไม่มั่นคงเชิงโครงสร้างของตลาดในช่วงนี้ แต่ก็มีนักลงทุนบางส่วนที่มองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อในระดับราคาต่ำ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากข้อพิพาททางการค้าและความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกอาจยังคงฉุดรั้งราคาในระยะสั้น นักลงทุนควรจับตาถ้อยแถลงทางการทูตและข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจากชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่
ความคิดเห็น 0