การร่วงลงของบิตคอยน์(BTC)ล่าสุดไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับฐานตามธรรมชาติ แต่กำลังส่งสัญญาณ ‘เตือนภัยที่รุนแรง’ ตามความเห็นของนักลงทุนทองคำและนักวิเคราะห์เศรษฐกิจชื่อดัง ปีเตอร์ ชิฟ(Peter Schiff) ซึ่งออกมาเตือนผ่านโซเชียลมีเดียว่า การร่วงนี้อาจไม่ใช่โอกาสในการเข้าซื้อระยะสั้นอย่างที่คาดกัน แต่เป็น ‘สัญญาณเริ่มต้นของตลาดขาลงขนาดใหญ่’ พร้อมเสริมว่า *“นักลงทุนคริปโตจะได้บทเรียนราคาแพงในเร็วๆ นี้”*
แรงกดดันที่ทำให้ราคาบิตคอยน์ดิ่งลง เกิดขึ้นพร้อมกับที่ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยทันทีที่สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงถึง 100% ตลาดคริปโตเองก็เผชิญการขายอย่างหนัก ราคาของบิตคอยน์ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของวันแตะ 113,030 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.57 ล้านบาท) และมูลค่าการชำระบัญชีในตลาดคริปโตนั้นสูงถึง 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.64 ล้านล้านวอน) ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วตลาด
แม้จะมีการรีบาวด์เล็กน้อยหลังทำเนียบขาวให้สัญญาณว่าพร้อมเจรจากับจีน นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการฟื้นตัวของคริปโตเป็นเพียง ‘แรงดีดชั่วคราว’ เท่านั้น เพราะไม่นานก็มีข่าวลบเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการค้าเผยออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นและคริปโตกลับเข้าสู่ความผันผวนอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับสูงสุดใหม่ที่ 4,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.69 แสนบาท) สร้างกระแสว่า ‘ทองคำ’ กำลังกลับมาเป็นสินทรัพย์หลบภัยที่แท้จริง ชิฟกล่าวใน *ความคิดเห็น* ว่า *“การที่บางคนเรียกบิตคอยน์ว่าเป็นทองคำดิจิทัลนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง”* พร้อมย้ำว่า การพุ่งขึ้นของทองคำสะท้อนว่า ‘ตลาดเริ่มเลือกสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีมูลค่าจริง’ และเตือนว่าราคาบิตคอยน์อาจไม่มี ‘จุดต่ำสุด’ ที่แน่นอนอีกต่อไป
อีกหนึ่งความกังวลของตลาดคือ ‘อัพโทเบอร์ (Uptober)’ หรือความหวังว่าจะเกิดแรงซื้อในเดือนตุลาคม ที่ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ท่ามกลางข่าวลบที่ประเดประดังเข้ามา นักลงทุนยิ่งจับตาทิศทางของบิตคอยน์ในอนาคตอย่างใกล้ชิด และยอมรับว่าการฟื้นตัวในตอนนี้ยังไม่มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0