Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ตลาดคริปโตเผชิญวิกฤตโครงสร้างลึก หลังอัลท์คอยน์ร่วงแรงสูงสุดนับตั้งแต่ยุค FTX

ตลาดคริปโตเผชิญวิกฤตโครงสร้างลึก หลังอัลท์คอยน์ร่วงแรงสูงสุดนับตั้งแต่ยุค FTX / Tokenpost

ตลาดคริปโตเผชิญภาวะซบเซาอีกระลอก หลังจากบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ไม่สามารถรักษาทิศทางขาขึ้นได้ ส่งผลให้ **สภาพคล่องในตลาดอัลท์คอยน์ลดลงอย่างชัดเจน** และอารมณ์การลงทุนดิ่งลงตาม รายงานล่าสุดยังชี้ว่าการปรับฐานครั้งนี้อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ระยะสั้น แต่สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกมากกว่า

‘Route 2 FI’ นักวิเคราะห์คริปโตนามแฝง ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X เตือนถึง ‘สัญญาณอันตราย’ ของตลาดในรอบนี้ โดยชี้ว่า มีปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่ **การกระจายเหรียญในตลาดที่ล้นเกิน**, การออกแบบโทเคโนมิกส์ที่ไม่ยั่งยืน และ **การลิสต์โปรเจกต์ที่ถูกประเมินค่าสูงเกินจริงในช่วงเริ่มต้น** ล้วนดึงสภาพคล่องออกจากตลาดอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากตลาดยังแสดงให้เห็นว่า ราคาของอัลท์คอยน์ 50 อันดับแรกได้ตกต่ำยิ่งกว่าช่วงหลังการล่มสลายของ FTX เมื่อปี 2022 ซึ่งอาจเป็น ‘สัญญาณชัดเจน’ ว่าตลาดกำลังสูญเสียความหวัง

นักลงทุนจำนวนมากกำลังประสบภาวะหมดแรงและถอดใจ ตามการวิเคราะห์ของ Route 2 FI ที่ระบุว่า **เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีเทรดเดอร์ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่กว่า 1 ล้านรายสูญเสียทรัพย์สินไป** เขาถึงขั้นกล่าวว่า “หลังจากวันแบล็กฟรายเดย์คริปโต ผู้เล่นกว่าครึ่งสูญเสียทรัพย์สินไปทั้งหมด และส่วนใหญ่ไม่น่าจะกลับมาแล้ว” ความเห็นนี้สะท้อนให้เห็นว่าการกู้คืนความเชื่อมั่นในตลาดอาจใช้เวลานาน

ด้านราคาของบิตคอยน์ระหว่างช่วงที่เกิดความผันผวนสูง ได้ร่วงจาก 122,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ลงมาแตะระดับ 101,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ก่อนจะฟื้นกลับมายืนที่ 116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ซึ่งยังแสดงถึงแนวโน้ม ‘ไม่มั่นคง’ ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็กลายเป็น *ตัวกระตุ้นความผันผวนราคาครั้งใหญ่* ส่วนอีเธอเรียมก็ไม่ต่างกัน หลังจากร่วงลงต่ำกว่า 3,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 513,000 บาท) และแม้จะฟื้นกลับมาที่ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 556,000 บาท) แต่ราคายัง ***ต่ำกว่าจุดสูงสุดถึง 18%***

อัลท์คอยน์ชื่อดังหลายตัวต่างร่วงลงอย่างหนัก รวมถึงเอ이다(ADA), ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid), ซุย(SUI), และไบแนนซ์คอยน์(BNB) มีการปรับตัวลงระหว่าง **7% ถึง 17% ภายในสัปดาห์เดียว** สะท้อนภาพรวมตลาดที่ยังอยู่ในโหมด ‘ขาลง’ Route 2 FI ยังได้ระบุว่าเหตุการณ์การลิสต์เหรียญบนกระดาน CEX ไม่สามารถดันราคาได้เหมือนในอดีตอีกต่อไป ในขณะเดียวกัน *โทเคนที่ได้รับเงินทุนจาก VC ก็กดดันตลาดหนักจาก Lockup ที่ถูกปลด*

เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “เทคโนโลยีไร้ประโยชน์, โปรเจกต์ที่ไม่สามารถหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด(PMF), ระบบโทเคโนมิกส์ที่ล้มเหลว และ **ปัญหาซัพพลายมากเกินไป** กำลังกดทับอัลท์คอยน์ทั่วกระดาน” โดยเฉพาะโทเคนที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมกับ *การประเมินมูลค่าตลาดแบบ Fully Diluted Value (FDV) ที่สูงเกินจริง* ส่งผลให้เงินในตลาดถูกแบ่งออกเป็นเสี่ยง ๆ โปรเจกต์ดั้งเดิมก็สูญเสียความสามารถในการแข่งขันตามไปด้วย

แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก Route 2 FI ก็ยังเสนอแนะ ‘ทางรอด’ สำหรับนักลงทุน โดยแนะให้ค้นหาและ **พัฒนาจุดแข็งเฉพาะด้านของตัวเอง** ไม่ว่าจะเป็นการเทรด, การทำคอนเทนต์ หรือการมีส่วนร่วมต่อชุมชน ซึ่งล้วนสามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ ได้ พร้อมสนับสนุนให้ใช้ *โซเชียลมีเดีย* เป็นเครื่องมือในการหาพันธมิตรหรือโอกาสใหม่ในตลาดที่กำลังหดตัว

ภาวะตลาดในตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่แค่การปรับฐานธรรมดา แต่เป็น ***วิกฤตเชิงโครงสร้างที่ลุกลามลึกกว่าเดิม*** นักลงทุนจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณและกลยุทธ์ที่เฉียบแหลมยิ่งกว่าเดิมในการเอาตัวรอดจากคลื่นนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1