บิตคอยน์(BTC) เดือนตุลาคมปีนี้ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง สวนทางกับแนวโน้มเดิมที่มักจะแข็งแกร่งในช่วงนี้จนได้รับฉายาว่า ‘Uptober’ โดยข้อมูลจาก CoinGlass เมื่อวันที่ 24 ระบุว่า ราคาของบิตคอยน์ร่วงลงราว *2.3%* เมื่อเทียบกับต้นเดือน ทำให้โอกาสปิดแท่งเทียนรายเดือนเป็น ‘แท่งลบ’ นั้นมีสูง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018
ตามข้อมูลย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา เดือนตุลาคมถือเป็นช่วงเวลาที่บิตคอยน์มีแนวโน้มพุ่งขึ้นโดยเฉลี่ย *20%* และช่วงตลาดกระทิงก็เคยพุ่งขึ้นมากกว่า *40%* มาแล้ว หากยึดตามสถิตินี้ ราคาของบิตคอยน์ในขณะนี้ควรจะอยู่ที่ประมาณ *130,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 4.87 ล้านบาท) แต่กลับถูกจำกัดอยู่ในกรอบแคบเพียง 107,000–111,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 4–4.15 ล้านบาท) ซึ่งแสดงถึงภาวะไร้ทิศทางหลังจากที่ราคาถูกกระทบจากแรงเทขายและการชำระบัญชี (liquidation) ในวงกว้าง
เพื่อให้ราคาของบิตคอยน์กลับมาปิดบวกในเดือนตุลาคมนี้ ยังคงต้องดีดขึ้นอีกอย่างน้อย *4%* อย่างไรก็ตาม ปัญหาสภาพคล่องที่ตึงตัวในตลาด และการที่สหรัฐฯ มีกำหนดประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง (Fed) ในสัปดาห์หน้า ยังคงเปิดโอกาสสำหรับการฟื้นตัวแบบระยะสั้น โดยนักลงทุนกำลังจับตาคำแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้
*ความคิดเห็น:* หาก Fed เลือกใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเกินคาด อาจสร้าง ‘แรงผลักดันระยะสั้น’ ให้ทั้งบิตคอยน์และตลาดคริปโตโดยรวมฟื้นตัวได้ แต่หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างชัดเจน ตลาดก็อาจซึมตัวต่อไป และบิตคอยน์อาจประสบกับ ‘ตุลาคมที่ผลงานแย่ที่สุด’ นับตั้งแต่ปี 2013
เหตุการณ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคที่ยังคงรุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินหรือทิศทางเศรษฐกิจในภาพรวม ส่งผลให้ความหวังของนักลงทุนที่เคยตั้งไว้สูงในช่วงต้นเดือนเริ่มเลือนลาง เหลือเพียงไม่กี่วันให้ลุ้นว่า บิตคอยน์จะสามารถกลับมาแสดงพลังในโค้งสุดท้ายของเดือนนี้ได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0