เมื่อวันที่ 25 (เวลาท้องถิ่น) ดิก เดอร์บิน(Dick Durbin) วุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์ ได้เสนอร่างกฎหมาย ‘Crypto ATM Fraud Prevention Act’ ในวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวถึงกรณีที่ประชาชนท้องถิ่นคนหนึ่งตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่านเครื่องเอทีเอ็มคริปโต หลังจากถูกข่มขู่โดยมิจฉาชีพว่าสั่งจับกุมตัว หากไม่โอนเงินค่าปรับจำนวน 15,000 ดอลลาร์ผ่านเครื่องดังกล่าว
เดอร์บินเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ มีเครื่องเอทีเอ็มคริปโตมากกว่า 30,000 เครื่อง และกรณีฉ้อโกงมักเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม ‘ผู้สูงอายุ’ ที่ตกเป็นเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพ ดังนั้น เขาจึงเสนอให้กำหนดข้อบังคับใหม่สำหรับผู้ให้บริการเครื่องเอทีเอ็มคริปโต เช่น การติดข้อความเตือนผู้ใช้มาตรการป้องกันการฉ้อโกง และการจำกัดวงเงินธุรกรรมของผู้ใช้ใหม่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาชญากรรมทางการเงิน
ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องดำเนินการ เช่น
– ติดป้าย ‘คำเตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกง’ ไว้ที่เครื่อง
– จำกัดวงเงินสำหรับผู้ใช้รายใหม่
– เพิ่มกระบวนการตรวจสอบเพิ่มเติมสำหรับธุรกรรมที่เกิน 500 ดอลลาร์
– อนุญาตให้มีการคืนเงินแบบมีเงื่อนไขในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการฉ้อโกง
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุว่าผู้ใช้ใหม่จะถูกจำกัดวงเงินสูงสุดที่ 2,000 ดอลลาร์ภายในสองสัปดาห์แรก และไม่สามารถทำธุรกรรมรวมเกิน 10,000 ดอลลาร์ได้
เดอร์บินกล่าวว่า “กฎหมายนี้จะช่วยเพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค และให้เครื่องมือแก่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบการใช้คริปโตในอาชญากรรม” พร้อมเน้นว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดการหลอกลวงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ
ข้อมูลจากสำนักงานสอบสวนกลาง(FBI) ระบุว่า ในปี 2023 มูลค่าความเสียหายจากการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งพบว่าเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งนี้ อาชญากรยังคงพัฒนาเทคนิคใหม่จากการใช้ ‘บัตรของขวัญ’ เพื่อโอนเงิน มาเป็นการใช้เครื่องเอทีเอ็มคริปโตในการดำเนินการแทน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนว่าร่างกฎหมายนี้จะได้รับการสนับสนุนในสภาคองเกรสหรือไม่ เนื่องจากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และขณะนี้มีร่างกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ กำลังถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณา นอกจากนี้ ยังต้องติดตามท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าจะลงนามรับรองกฎหมายดังกล่าวหรือไม่
ความคิดเห็น 0