ฮันเตอร์ ฮอร์สลีย์(Hunter Horsley) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบิทไวส์(Bitwise) แสดงความคิดเห็นอย่างมั่นใจว่า ภายใน 12 เดือนข้างหน้า *สถาบันการเงินวอลล์สตรีททั้งหมดจะเข้าสู่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* โดยระบุว่า เทคโนโลยีของคริปโตมีอานุภาพสูงพอที่จะปฏิรูปตลาดทุนแบบดั้งเดิมได้อย่างสิ้นเชิง พร้อมชี้ให้เห็นว่า การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะ *สินทรัพย์มาตรฐาน* จากนักลงทุนสถาบันกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างชัดเจน
ผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อเร็วๆ นี้ ฮอร์สลีย์กล่าวว่า “หากซอฟต์แวร์กำลังยึดครองโลก คริปโตก็กำลังยึดครองตลาดทุน” ความเห็นของเขาสะท้อนทัศนคติเชิงบวกอย่างยิ่งต่ออนาคตของคริปโต พร้อมทั้งเป็นการเรียกร้องให้นักลงทุนสถาบันเร่งปรับกลยุทธ์เข้าสู่ยุคสินทรัพย์ดิจิทัล
บิทไวส์เปิดเผยข้อมูลว่า การรุกเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลของสถาบันวอลล์สตรีทกำลังเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างแบล็คร็อก(BlackRock), โกลด์แมน แซคส์(Goldman Sachs), เจพีมอร์แกน เชส(JPMorgan Chase), แบงก์ออฟอเมริกา(Bank of America), แบงก์ออฟนิวยอร์กเมลลอน(BNY Mellon), ซีโบอี(CBOE), และยูบีเอส(UBS) ต่างก็เริ่มให้บริการด้านการซื้อขายคริปโต, การดูแลสินทรัพย์(Custody), ตลอดจนผลิตภัณฑ์ ETP อย่างจริงจัง
ถึงแม้จะเห็นความเคลื่อนไหวมากขึ้น แต่ยังมีเพียงไม่กี่สถาบันที่ลงทุนผ่านกองทุนคริปโตแบบส่วนตัว โดยมีเพียงซิตี้กรุ๊ป(Citi)กับเอชเอสบีซี(HSBC) ที่กำลังทดลองใช้ *ระบบการชำระเงินด้วยคริปโต* อย่างจริงจัง ขณะที่สถาบันส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณโครงการเกี่ยวกับการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน(Tokenization) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทชื่อดังอย่างฟิเดลิตี้(Fidelity), แฟรงคลิน เทมเพิลตัน(Franklin Templeton) และโกลด์แมน แซคส์ เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงตลาดสินทรัพย์ทางเลือกอย่างเห็นได้ชัด
บิทไวส์ยังคาดการณ์ว่า *ภายใน 10 ปี ราคาบิตคอยน์(BTC) อาจพุ่งแตะ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* (ประมาณ 18,070,000 บาท) โดยอ้างอิงข้อมูลจากไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การนำคริปโตไปใช้ในระดับองค์กรเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากไตรมาสก่อนหน้า แสดงถึงทิศทางการไหลเข้าของเงินทุนในระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างต่อเนื่อง
การตอบรับคริปโตของสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ *คริปโตเริ่มกลายเป็นหัวใจของระบบทุนโลก* ท่าทีของฮอร์สลีย์จึงสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงลึก ไม่ใช่แค่การลงทุน แต่คือความพยายามของบริษัทเหล่านี้ที่จะกลายเป็น "ผู้ขับเคลื่อนการเงินแห่งอนาคต" อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0