แม้จะเผชิญกับภาวะ *ชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ* ที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อ แต่รัฐสภาสหรัฐยังคงเดินหน้าผลักดัน *ร่างกฎหมายกำกับดูแลตลาดคริปโต* อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น)
รายงานระบุว่า *วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน* จำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่มีอิทธิพลในคณะกรรมาธิการหลักของวุฒิสภา กำลังเร่งผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ *โครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล* ให้เสร็จภายในกำหนดการเดิม โดยไม่ให้อุปสรรคจากภาระงบประมาณมาขัดขวาง
ถึงแม้ในขณะนี้จะมี *ข้าราชการสหรัฐหลายพันคน* ต้องถูกสั่งพักงานแบบไม่รับค่าจ้างเนื่องจากชัตดาวน์ แต่กิจกรรมของสภาคองเกรสยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากสมาชิกสภายังคงได้รับเงินเดือนและสามารถจัดการประชุมได้ตามปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้บางกลุ่มในสภาเลือกที่จะเร่งเครื่องผลักดันร่างกฎหมายด้านคริปโตโดยไม่รอจนวิกฤตการเมืองคลี่คลาย
*ร่างกฎหมายฉบับนี้* คาดว่าจะครอบคลุมไม่เพียงแค่ *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* แต่อาจมีผลต่อสกุลเงินและโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น *เทโซส(XTZ)*, *พอลิกอน(MATIC)* และ *ออปทิ มิสซึม(OP)* โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การ ‘นิยามคริปโตอย่างชัดเจน’ และการแบ่งแยกบทบาทของสินทรัพย์ระหว่าง *หลักทรัพย์* กับ *สินค้าโภคภัณฑ์* เพื่อให้แน่ชัดว่าองค์กรใด เช่น SEC หรือ CFTC จะเป็นผู้กำกับดูแล
*ความคิดเห็น:* ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบล็อกเชนต้องเผชิญกับความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนา การเคลื่อนไหวของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐในครั้งนี้จึงถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับภาคคริปโต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมือง อาทิ *วิกฤตชัตดาวน์* และศึก *เลือกตั้งประธานาธิบดี* ที่ใกล้เข้ามา อาจทำให้การผลักดันกฎหมายยังมีความท้าทายไม่น้อย
 
                     
                                             
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                
ความคิดเห็น 0