ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจหรือดีไฟ (DeFi) กำลังเผชิญกับ ‘สัญญาณวิกฤตสภาพคล่อง’ อีกครั้ง หลังบริษัทความปลอดภัย PeckShield ออกมาเตือนว่า โปรโตคอลให้กู้ยืมสินทรัพย์คริปโตอย่าง ‘ยูเลอร์(Euler)’ บนแพลตฟอร์ม เทโลสซี(TelosC) ได้ใช้งานทรัพยากรในตู้นิรภัยถึงจุดเต็ม 100% แล้ว โดยมีมูลค่ายอดเงินฝากรวมกว่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 961 ล้านบาท) ซึ่งทำให้ในขณะนี้ ไม่สามารถถอนสภาพคล่องได้เลย
ยูเลอร์ทำหน้าที่คล้ายธนาคารแบบกระจายศูนย์ ผู้ใช้สามารถฝากคริปโตเพื่อรับผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย ขณะที่ผู้กู้สามารถใช้สินทรัพย์เหล่านี้เป็นหลักประกันเพื่อกู้ยืมสินทรัพย์อื่นได้ โดย เทโลสซี ซึ่งมีบทบาท ‘ดูแลความเสี่ยง’ และกำหนดเงื่อนไขการกู้ รวมถึงผลตอบแทน ได้บริหารตู้นิรภัยแยกอิสระ แต่ขณะนี้สินทรัพย์ภายในตู้นิรภัยเหล่านั้นกลับถูกปล่อยกู้จนหมด ทำให้ผู้ให้สภาพคล่องถอนเงินไม่ได้ และผลตอบแทนที่ได้รับก็ต่ำถึงแค่ปีละ 0.18% เท่านั้น
สิ่งที่น่ากังวลคือ นี่อาจไม่ใช่เพียงเหตุการณ์เฉพาะจุด แต่มีแนวโน้มส่งผลเป็น *ลูกโซ่ในระบบดีไฟ* หากวิกฤตสภาพคล่องยังดำเนินต่อไป อาจก่อให้เกิดปัญหาดอกเบี้ยกู้ยืมพุ่งสูง การชำระบัญชี(ลิควิด)แบบต่อเนื่อง ไปจนถึงการทรุดตัวของมูลค่าคริปโตสังเคราะห์ (synthetic assets) ความเสี่ยงเหล่านี้ถูกเรียกกันว่า ‘ดีไฟคอนแทเจียน(DeFi contagion)’
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากเหตุการณ์การแฮกระดับ 93 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,243 ล้านบาท) ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับสตรีมไฟแนนซ์(Stream Finance) ซึ่งเป็นโปรโตคอลดีไฟที่มีความเชื่อมโยงกับเทโลสซี ทางสตรีมไฟแนนซ์ได้ระงับการฝากถอนทั้งหมดหลังเหตุโจมตี ซึ่งส่งผลต่อโครงสร้างสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกัน และขยายผลกระทบมาถึงตู้นิรภัยเทโลสซีในที่สุด
สถานการณ์ถูกซ้ำเติมจากเหตุการณ์โจมตีโปรโตคอลบาลานเซอร์(Balancer) ที่มีมูลค่าความเสียหายถึง 128 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,711 ล้านบาท) รวมถึงการที่สเตเบิลคอยน์ xUSD พังลงจากราคา 1 ดอลลาร์ เหลือเพียง 0.35 ดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากเร่งถอนสภาพคล่องอย่างตื่นตระหนก จนเกิดเป็น ‘ปรากฏการณ์สะท้อนกลับ’ ที่ทำให้วิกฤตรุนแรงยิ่งขึ้น
ประเด็นนี้ตอกย้ำถึง *ความเปราะบางเชิงโครงสร้างของระบบดีไฟ* อีกครั้ง ทั้งในแง่กลไกประเมินความเสี่ยง อัลกอริทึมการกำหนดผลตอบแทน ไปจนถึงความโปร่งใสของผู้ดูแลระบบ และปัจจัยเชื่อมโยงระหว่างโปรโตคอลต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการทบทวนและตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้นกว่าที่เคย
ความคิดเห็น 0