Zแคช(ZEC) ก้าวเข้าสู่ 20 อันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัลตามมูลค่าตลาด แซงหน้า *สเตลลา(XLM)* หลังจากราคาพุ่งขึ้นกว่า 1,100% ภายในหนึ่งปี โดยในขณะนี้ มูลค่าตลาดของ *Zแคช* อยู่ที่ประมาณ 9.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12.5 ล้านล้านวอน) ส่วน *สเตลลา* ตามหลังเล็กน้อยที่ 8.88 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 11.8 ล้านล้านวอน) ทำให้ *Zแคช* ขึ้นแท่นอันดับ 14 ของตลาดคริปโตทั้งหมด
*Zแคช* ซึ่งเป็นเหรียญที่เน้น ‘ความเป็นส่วนตัว’ มีจุดเด่นคือการใช้เทคโนโลยี ‘การพิสูจน์แบบไม่มีความรู้’ (Zero-Knowledge Proofs) ทำให้สามารถทำธุรกรรมแบบไม่เปิดเผยตัวตนได้ โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2016 ผ่านการ *ฟอร์ก* จาก *บิตคอยน์(BTC)* และแม้เคยถูกมองว่าไร้บทบาทในตลาด แต่ได้เริ่มแสดงให้เห็นถึงการพุ่งขึ้นของราคาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน โดยราคาวิ่งจาก 54 ดอลลาร์ (ราว 72,000 วอน) ไปแตะจุดสูงสุดที่ 748 ดอลลาร์ (ประมาณ 994,000 วอน) ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว
ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการปรับฐานกลับลงมา Zแคชก็ยังซื้อขายอยู่ที่ระดับ 589 ดอลลาร์ (ประมาณ 784,000 วอน) ซึ่งยังเพิ่มขึ้นถึง 41% ภายในสัปดาห์เดียว และกว่า 1,172% เมื่อเทียบกับปีก่อน สิ่งที่น่าสนใจคือ การพุ่งขึ้นครั้งนี้ไม่ได้มาจากการเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึงการใช้งานจริงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกระแสการตื่นตัวเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัว ด้วยมูลค่าตลาดที่แซงหน้า *โมเนโร(XMR)* Zแคชจึงกลายเป็นเหรียญประเภท *Privacy Coin* ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน
ในอีกด้านหนึ่ง *สเตลลา(XLM)* ยังคงเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองอย่างแข็งขัน ล่าสุดมีรายงานว่าจำนวน *นักพัฒนาเต็มเวลา* เพิ่มขึ้น 70% ในไตรมาสที่ผ่านมา แตะ 1,450 คน พร้อมกับจำนวน *ธุรกรรมสมาร์ตคอนแทรกต์* ที่ทะลุ 1 ล้านครั้งต่อวัน รวมแล้วกว่า 157 ล้านครั้งทั่วทั้งเครือข่าย นอกจากนี้ โครงการ *แอมบาสเดอร์* ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคละตินอเมริกาและเอเชียแปซิฟิก
แม้จะมีการเติบโตด้านเทคนิคอย่างเห็นได้ชัด ราคาของ *XLM* กลับยังไม่สะท้อนแนวโน้มนี้อย่างเต็มที่ โดยเพิ่มขึ้นเพียง 175% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งต่ำเมื่อเทียบกับเหรียญอื่นในกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์ในวงการมองว่า หาก XLM สามารถจำแนวต้านที่ 0.5 ดอลลาร์ (ราว 660 วอน) ได้สำเร็จ ก็อาจเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่
การแข่งกันระหว่าง Zแคชที่เน้น ‘ความเป็นส่วนตัวและการใช้งานจริง’ กับ *สเตลลา* ซึ่งเดินหน้าในด้าน ‘การพัฒนาโครงสร้างและระบบนิเวศของนักพัฒนา’ กำลังกลายเป็นภาพสะท้อนของสองกลยุทธ์ที่แตกต่างในโลกคริปโต โดยตลาดกำลังจับตาว่าแนวทางไหนจะสามารถดึงดูดผู้ใช้และนักลงทุนได้มากกว่าในอนาคต
ความคิดเห็น 0