ธนาคารกลางอังกฤษเดินหน้ากำหนด ‘ข้อบังคับควบคุมสเตเบิลคอยน์’ อย่างเป็นทางการ โดยเตรียมจัดให้สเตเบิลคอยน์ที่อิงค่าเงินปอนด์ กลายเป็น ‘สินทรัพย์ที่มีความสำคัญเชิงระบบ’ พร้อมวางกรอบควบคุมที่เข้มข้นตั้งแต่ขั้นตอนการออกเหรียญจนถึงกระบวนการหมุนเวียนในระบบการเงิน
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ธนาคารกลางอังกฤษ(Bank of England) ได้เผยแพร่เอกสาร ‘ร่างข้อเสนอเพื่อการรับฟังความคิดเห็น (consultation paper)’ เพื่อเตรียมประกาศใช้ระเบียบควบคุมสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่าผูกกับเงินปอนด์ภายในปี 2026 โดยชี้ว่าสเตเบิลคอยน์ที่ถูกใช้งานในวงกว้าง เช่น การชำระเงินทั่วไป อาจมีคุณสมบัติกลายเป็น ‘สเตเบิลคอยน์ที่มีความสำคัญเชิงระบบ(systemic stablecoin)’ อันก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของระบบการเงินโดยรวมได้
ภายใต้กรอบข้อเสนอใหม่นี้ ผู้ออกสเตเบิลคอยน์จะต้องกันเงินสำรองไว้อย่างเข้มงวด โดยอย่างน้อย *40%* ของหนี้สินหมุนเวียนทั้งหมดจะต้องถูกเก็บไว้เป็นเงินฝากแบบไม่รับดอกเบี้ยกับธนาคารกลาง และอีกไม่เกิน *60%* ที่เหลือต้องลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น เช่น ตราสารหนี้ของรัฐบาลอังกฤษ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์วิกฤติ เช่น การไถ่ถอนพร้อมกันจำนวนมาก หรือปัญหาสภาพคล่องเฉียบพลัน
ในร่างข้อเสนอยังระบุถึง *ขีดจำกัดในการถือครอง* โดยระบุว่า *บุคคลทั่วไป* สามารถถือสเตเบิลคอยน์ได้สูงสุด *ไม่เกิน 20,000 ปอนด์* (ประมาณ 2.63 ล้านบาท) ต่อเหรียญ ส่วน *ผู้ค้าปลีกรายย่อย* จำกัดไว้ที่ *10,000 ปอนด์* (ประมาณ 1.32 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในภาคเอกชนที่มีความจำเป็นด้านการดำเนินงาน สามารถยื่นคำร้องขอยกเว้นเพื่อถือครองจำนวนที่มากกว่านี้ได้ โดยระดับการยกเว้นอาจขยายได้ถึง *10 ล้านปอนด์* ต่อโทเคนต่อบริษัท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กระทำ
การเปิดรับความเห็นต่อร่างข้อเสนอฉบับนี้ จะดำเนินไปจนถึงวันที่ *10 กุมภาพันธ์ 2026* ก่อนที่ธนาคารกลางอังกฤษจะเผยแพร่กฎเกณฑ์ฉบับสุดท้ายภายในช่วง *ครึ่งหลังของปี 2026*
ท่าทีล่าสุดจากอังกฤษสะท้อนความพยายามในการผลักดัน *สเตเบิลคอยน์* เข้าสู่กรอบกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในบริบทที่การใช้งานสเตเบิลคอยน์ในฐานะ *เครื่องมือชำระเงิน* กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวนี้จึงเป็น ‘ก้าวล่วงหน้า’ ของธนาคารกลางอังกฤษ ในการเตรียมความพร้อมรองรับโลกการเงินยุคดิจิทัล ทั้งยังถูกจับตามองว่าอาจเป็นต้นแบบให้กับ *ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ* ที่กำลังพิจารณาการเปลี่ยนผ่านจากระบบเงินสดไปสู่สกุลเงินดิจิทัลในอนาคตอีกด้วย
ความคิดเห็น 0