อีเธอเรียม(ETH) กลับมาฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในช่วงต้นเดือน โดยปรับตัวขึ้นราว 20% ภายในระยะเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงมองว่าตลาดยังอยู่ในภาวะไม่แน่นอน และการเข้าสู่ ‘ตลาดกระทิง’ อย่างแท้จริงอาจยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้
เมื่อวันที่ 9 (เวลาท้องถิ่น) ราคาของอีเธอเรียม ซึ่งก่อนหน้านี้ร่วงลงไปต่ำกว่า 3,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 421,000 บาท) ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า *ประธานาธิบดีทรัมป์* ประกาศจะจ่ายเงินช่วยเหลือขั้นต่ำ 2,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 272,000 บาท) ต่อคนให้กับชาวอเมริกันรายได้น้อย ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของตลาดดีดตัวขึ้น และผลักดัน ETH ขึ้นไปแตะระดับ 3,650 ดอลลาร์ (ประมาณ 496,000 บาท) ก่อนจะปรับลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ราว 3,610 ดอลลาร์ (ประมาณ 491,000 บาท)
แม้ราคาจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่หลายฝ่ายยังคงเตือนว่าการเคลื่อนไหวของตลาดไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงลดลงแล้ว *นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ โพสตี (Posty)* ระบุว่า “ETH ยังเคลื่อนไหวอยู่ในโครงสร้างของแนวโน้มขาลงระยะกลางถึงยาว” พร้อมเสริมว่าแนวต้านสำคัญบริเวณ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 544,000 บาท) อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเพิ่มเติม
เช่นเดียวกับ *เท็ด (Ted)* อีกหนึ่งนักวิเคราะห์ตลาด ที่มองว่าราคาของอีเธอเรียมจะสามารถวิ่งไปแตะ 4,000 ดอลลาร์ได้ก็ต่อเมื่อสามารถทะลุแนวต้าน 3,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 503,000 บาท) ในกราฟรายวันได้สำเร็จ แต่ถ้าหากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าว ก็อาจร่วงกลับลงไปที่ 3,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 462,000 บาท) ได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นในทางบวกจากฝั่งนักวิเคราะห์สายระยะยาว *อลี มาร์ติเนซ (Ali Martinez)* คาดการณ์ว่า ราคาของ ETH อาจร่วงอีกครั้งไปอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ ก่อนจะเดินหน้าเข้าสู่ช่วงขาขึ้น และมีโอกาสทะลุไปถึง 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,360,000 บาท) ในอนาคต *นักลงทุนรายอื่นอย่าง แคส อาเบ(Cas Abbe)* เห็นด้วย พร้อมระบุว่า การร่วงครั้งล่าสุดอาจเป็นเพียง ‘การหลอกให้ตกใจ’ หรือ *fakeout* เท่านั้น และคือจุดเริ่มของการวิ่งขึ้นระลอกใหม่
ขณะเดียวกัน ปริมาณอีเธอเรียมที่ถูกเก็บไว้ใน *กระดานเทรดแบบรวมศูนย์* กำลังลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยปัจจุบันมีจำนวนต่ำกว่า 16 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี การเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนว่า ผู้ถือครองมีแนวโน้มย้ายสินทรัพย์ไปยัง *กระเป๋าเงินส่วนตัว* ลดแรงกดดันจากการขายในระยะสั้น และอาจเป็นสัญญาณบวกหากมองในมุมระยะยาว
โดยสรุป ถึงแม้อีเธอเรียมจะสามารถรีบาวด์จากระดับต่ำสุดได้ในช่วงนี้ แต่คำถามใหญ่ยังคงอยู่ที่ว่า ราคาจะสามารถทะลุแนวต้านที่สำคัญและสร้างฐานใหม่ได้หรือไม่ หากไม่มีปริมาณการซื้อขายที่แข็งแรงมารองรับ ตลาดกระทิงที่นักลงทุนรอคอยก็อาจต้องรอต่อไปอีกพักใหญ่ ความไม่แน่นอนยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
ความคิดเห็น 0