หลังจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สิ้นสุดลง สมาชิกสภาบางรายเริ่มหันมาสนใจร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอีกครั้ง โดยคาดว่าอาจกลายเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2026
ล่าสุด คณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านการธนาคารและด้านเกษตรกรรมได้เปิดเผยร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดฉบับใหม่ ซึ่งอ้างอิงจากร่าง CLARITY ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยทั่วไปเรียกร่างฉบับนี้ว่า ‘กฎหมายการสร้างสรรค์ทางการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ’(Responsible Financial Innovation Act) อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะเวลาที่เหลือของสภาชุดปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2027 นักวิเคราะห์กังวลว่ายังอาจไม่มีเวลามากพอผ่านร่างกฎหมายก่อนช่วงปลายปีหรือก่อนที่กระแสเลือกตั้งในปี 2026 จะเริ่มเข้มข้น
เมสัน ลินอว์(Mason Lynaugh) ผู้อำนวยการชุมชนของกลุ่มสนับสนุนคริปโต ‘สแตนด์ วิท คริปโต’(Stand With Crypto) กล่าวว่า “ประเด็นโครงสร้างตลาดยังคงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด และผู้มีสิทธิโหวตยังจับตามองว่าใครสนับสนุนหรือคัดค้าน ซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากในปี 2026” โดยเขามองว่า ร่างกฎหมายนี้อาจเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ ต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
วุฒิสมาชิกซินเธีย ลูมิส(Cynthia Lummis) ซึ่งเป็นผู้ผลักดันประเด็นนี้มาต่อเนื่อง เปิดเผยเมื่อเดือนสิงหาคมว่า เธอหวังว่าร่างกฎหมายจะสามารถผ่านคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องได้ภายในเดือนพฤศจิกายน และเข้าสู่กระบวนการตรากฎหมายทันภายในปี 2026 อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ชัตดาวน์ และการต่อต้านจากสมาชิกพรรคเดโมแครตบางส่วน อาจกลายเป็นอุปสรรคในกระบวนการพิจารณา
ด้านวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ทอม ทิลลิส(Tom Tillis) ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการเดียวกัน เน้นว่า “จำเป็นอย่างยิ่งที่ร่างกฎหมายนี้ต้องได้รับการอนุมัติภายในเดือนมกราคม หรือไม่เกินต้นเดือนกุมภาพันธ์” โดยเตือนว่าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว การพิจารณากฎหมายคริปโตอาจชะลอตัวลงเนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
อุตสาหกรรมคริปโตเองก็มุ่งมั่นที่จะเข้าไปมีบทบาทเชิงนโยบายมากขึ้นผ่านกลยุทธ์ทางการเมือง เช่น การสนับสนุนผู้สมัครที่มีจุดยืนเป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการระดมทุนสนับสนุน กลุ่มสแตนด์ วิท คริปโตเป็นหนึ่งในแกนหลักที่ดำเนินกิจกรรมเหล่านี้ โดยเน้นรวบรวมพันธมิตรทางนโยบายในสภา
สำหรับการเลือกตั้งในปี 2026 จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบทั้ง 435 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิกอีกรวม 33 ที่นั่ง โดยตามข้อมูลจากสแตนด์ วิท คริปโต การเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีผู้สมัครที่สนับสนุนคริปโตจำนวน 274 คนที่ได้รับเลือกตั้งหรือได้รับเลือกให้เข้าสภาอีกครั้ง ถือเป็นกำลังสำคัญที่อุตสาหกรรมจับตา
ตัวอย่างเช่น ในการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่มีการแข่งขันสูง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต มิคกี้ เชอริล(Mikie Sherrill) ชนะด้วยคะแนนห่างกันเพียงประมาณ 450,000 คะแนน ซึ่งจากผลสำรวจของสแตนด์ วิท คริปโตเมื่อเดือนมิถุนายน พบว่าในบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งในนิวเจอร์ซีย์ 1,000 คน มากกว่าครึ่งระบุว่ามีแนวโน้มจะลงคะแนนให้ผู้สมัครที่เป็นมิตรต่อคริปโต
ลินอว์อธิบายว่า “สาเหตุที่เชอริลได้รับความสนใจอย่างมาก มาจากการที่เธอลงคะแนนสนับสนุนหลายร่างกฎหมายคริปโตในปีนี้” อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนประเมินการสนับสนุนจากสแตนด์ วิท คริปโตในระดับสูง โดยเธอสนับสนุนทั้งร่างกฎหมายโครงสร้างตลาด และร่างกฎหมายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ หรือที่เรียกว่า ‘GENIUS’
เมื่อการเลือกตั้งปี 2026 ใกล้เข้ามา ความสัมพันธ์ระหว่างวงการคริปโตและการเมืองสหรัฐฯ ก็ยิ่งใกล้ชิดขึ้น ความคืบหน้าของร่างกฎหมายโครงสร้างตลาด จึงอาจกลายเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่กำหนดทิศทางของนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ โดยผลการเลือกตั้งจะชี้ชัดว่าอนาคตของคริปโตในสหรัฐฯ จะเป็นไปในทิศทางใด
ความคิดเห็น 0