บริษัทเมตะแพลนเน็ต(Metaplanet) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในบิตคอยน์(BTC) สัญชาติญี่ปุ่น เดินหน้าใช้กลยุทธ์การซื้อเชิงรุกอีกครั้ง โดยบริษัทประกาศออกพันธบัตรดอกเบี้ย 0% มูลค่า 2 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 13.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.93 หมื่นล้านวอน) เพื่อนำเงินไปซื้อบิตคอยน์เพิ่ม
เมื่อวันที่ 27 บริษัทเมตะแพลนเน็ตได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า การออกพันธบัตรครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สะสมบิตคอยน์ที่เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยพันธบัตรที่ออกจะมีทั้งหมด 40 ฉบับ แต่ละฉบับมีมูลค่าหน้าตั๋ว 50 ล้านเยน และจะต้องชำระคืนเต็มจำนวนภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2025 เงินทุนที่ได้จากการออกพันธบัตรครั้งนี้จะถูกนำเข้าสู่ ‘อีโวฟันด์(Evo Fund)’ ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนบิตคอยน์ของบริษัท
ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมปีที่แล้ว เมตะแพลนเน็ตได้ทยอยซื้อบิตคอยน์ต่อเนื่องรวม 17 ครั้ง ปัจจุบันบริษัทถือครองบิตคอยน์จำนวน 2,235 BTC ซึ่งมีมูลค่าตลาดราว 192.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 27.7 พันล้านวอน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมปีที่แล้ว บริษัทได้ซื้อบิตคอยน์ 619.7 BTC ในธุรกรรมเดียว ซึ่งถือเป็นการซื้อครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท
เมตะแพลนเน็ตก่อตั้งขึ้นในปี 1999 และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยราคาหุ้นของบริษัทเคยอยู่ในช่วงซบเซาหลายปีหลังจากปี 2013 แต่หลังจากเริ่มใช้กลยุทธ์ลงทุนในบิตคอยน์ ราคาหุ้นของบริษัทก็พุ่งสูงขึ้น โดยจากระดับ 200 เยน ราคาหุ้นพุ่งขึ้นแตะ 6,650 เยน เพิ่มขึ้นถึง 3,225% ก่อนจะมีการปรับฐานและปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,000 เยน
บริษัทประกาศแผนเดินหน้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าถือครอง 10,000 BTC ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และจะขยายเพิ่มเป็น 21,000 BTC ภายในสิ้นปี 2026 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าตลาดราว 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.88 ล้านล้านวอน)
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมมองว่ากลยุทธ์ของเมตะแพลนเน็ตคล้ายกับไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy) บริษัทซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ที่นำโดยไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ซึ่งดำเนินกลยุทธ์สะสมบิตคอยน์เพื่อใช้เป็นทรัพย์สินขององค์กร โดยเมตะแพลนเน็ตดูเหมือนกำลังเดินรอยตามโมเดลดังกล่าว และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทถือครองบิตคอยน์ชั้นนำของญี่ปุ่น
ความคิดเห็น 0