คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) กำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากการเตือนของ World Federation of Exchanges(WFE) ซึ่งแสดงความกังวลต่อการผ่อนปรนกฎระเบียบด้านคริปโตมากเกินไป โดยเฉพาะกับกรณีของ ‘หุ้นในรูปแบบโทเคน(Tokenized Stock)’ ที่บริษัทคริปโตบางรายพยายามผลักดันให้เข้าสู่ตลาดโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามปกติของ SEC
เมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา WFE ซึ่งเป็นองค์กรที่สมาชิกประกอบไปด้วยตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ทั่วโลก เช่น แนสแด็ก(Nasdaq) และตลาดออปชันชิคาโก(Cboe) ได้ส่งจดหมายถึง SEC แสดงความกังวลอย่างจริงจัง โดยระบุว่าบริษัทคริปโตที่ยังไม่จดทะเบียนกับ SEC กำลังมีแผนจะออกโทเคนที่ ‘ผูกกับหุ้นของบริษัทในสหรัฐ’ ซึ่งแม้จะดูเหมือนหุ้นแต่ก็ไม่ได้มีสถานะเป็นหุ้นที่แท้จริง พร้อมเตือนว่าโครงสร้างของโทเคนเหล่านี้มีความเสี่ยงซับซ้อนและเชื่อมโยงกันในหลายระดับ
หุ้นในรูปแบบโทเคน(Tokenized Stock) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจคริปโต เนื่องจากให้ความสามารถในการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องซื้อหุ้นจริง และสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม บริการนี้ไม่สามารถให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐได้ เว้นแต่บริษัทจะมีสถานะเป็น ‘โบรกเกอร์-ดีลเลอร์’ ที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับ SEC
แม้ในช่วงที่ผ่านมา จะมีบางบริษัทในวงการคริปโตพยายามผลักดันให้ SEC อนุมัติข้อยกเว้นจากการลงทะเบียน ซึ่งคณะกรรมการบางราย เช่น พอล แอทคินส์(Paul Atkins) เคยกล่าวถึง ‘ความเป็นไปได้’ ที่จะมีข้อยกเว้นเกิดขึ้น แต่ WFE ได้ย้ำจุดยืนว่าการยกเว้นควรจะเกิดขึ้นใน ‘กรณีจำกัด’ เท่านั้น และไม่ควรเป็นช่องทางให้องค์กรต่าง ๆ หลีกเลี่ยงกฎระเบียบ
WFE ให้ความเห็นว่า “การอนุมัติข้อยกเว้นในวงกว้างอาจบั่นทอนโครงสร้างการกำกับดูแลที่มีอยู่ และทำลายความมั่นใจของผู้ลงทุนในระยะยาว” พร้อมเสริมว่า ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบควรถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และไม่ควรถูกใช้เป็นทางลัดเพื่อนำโปรเจกต์ใหม่เข้าตลาดโดยไม่ผ่านระบบควบคุม
ความคิดเห็น: คำเตือนจาก WFE สะท้อนความตึงเครียดระหว่างตลาดการเงินแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่โลกกำลังทบทวนบทบาทของสินทรัพย์โทเคนในระบบการเงินหลัก ทั้งนี้ เทคโนโลยีการโทเคนสินทรัพย์อาจส่งผลต่อโครงสร้างของตลาดในอนาคต แต่หากปราศจากการกำกับดูแลที่ชัดเจน ก็อาจเป็นภัยต่อเสถียรภาพทางการเงินในวงกว้าง
‘หุ้นในรูปแบบโทเคน’ เป็นหนึ่งในแนวโน้มที่สร้างความเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตอย่างมาก แต่สำหรับบริษัทไทยที่มีแผนรุกเข้าสู่ตลาดสหรัฐ ควรจับตามองแนวทางการกำกับของ SEC อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นว่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการโทเคนสินทรัพย์ ต้องมีสถานะเป็นโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ หรือดำเนินการภายใต้ข้อยกเว้นพิเศษหรือไม่
‘การเข้าไม่ถูกช่อง’ อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงทางกฎหมาย โดยเฉพาะกับบริการที่เน้นเจาะกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กฎระเบียบเข้มงวดเป็นพิเศษ
ความคิดเห็นจากแหล่งข่าวระบุว่า ขณะที่เทคโนโลยีการโทเคนหุ้นอาจเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สร้างการเข้าถึงใหม่ ๆ แต่การเร่งรีบผลักดันออกสู่ตลาดก่อนที่มาตรฐานและระบบกำกับดูแลจะพร้อม อาจทำให้ความเชื่อมั่นในระบบคริปโตโดยรวมถูกสั่นคลอนในระยะยาว
ความคิดเห็น 0