ปริมาณการซื้อขายฟิวเจอร์สของอีเธอเรียม(ETH) ในตลาดชิคาโกเมอร์แคนไทล์เอ็กซ์เชนจ์ (CME) แซงหน้าบิตคอยน์(BTC) เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาดอนุพันธ์คริปโต และมีมุมมองว่าอีเธอเรียมอาจเข้าสู่ ‘ซูเปอร์ไซเคิล’ ที่นักลงทุนรอคอยมาอย่างยาวนาน
เมื่อไม่นานมานี้ พรียันกา จาอิน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของ CME ออกมาเปิดเผยในวิดีโอล่าสุดว่า ‘ความผันผวน’ ของออปชันอีเธอเรียมอยู่ในระดับสูงกว่าบิตคอยน์ แม้ตามปกติ ความผันผวนจะทำให้ผู้เล่นตลาดถอยห่าง แต่ในกรณีนี้กลับกลายเป็นปัจจัยดึงดูดนักลงทุนเข้ามาเพิ่ม โดยระบุว่า “ราคาของออปชันอีเธอเรียมที่พุ่งสูงขึ้นได้กระตุ้นความสนใจจากผู้ค้า ส่งผลให้การซื้อขายฟิวเจอร์สของอีเธอเรียมเติบโตอย่างชัดเจน”
จาอิน กล่าวต่อว่า “ความผันผวนที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ กลายเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดให้เทรดเดอร์เข้ามายังตลาดฟิวเจอร์สอีเธอเรียมของ CME” พร้อมระบุว่า ยังเร็วเกินจะสรุปว่าแนวโน้มนี้คือจุดเริ่มต้นของ ‘ซูเปอร์ไซเคิล’ หรือเพียงแค่เป็นการ ‘ไล่ราคาทางเทคนิค’ ชั่วคราวเท่านั้น
แนวโน้มของอีเธอเรียมเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘ฟลิปเพนนิง (flippening)’ ขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ CME ซึ่งหมายถึงจำนวนสัญญาฟิวเจอร์สของอีเธอเรียมที่เปิดอยู่มีมากกว่าของบิตคอยน์ เหตุการณ์นี้นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดอนุพันธ์คริปโต
อย่างไรก็ตาม ในเชิงมูลค่าการซื้อขายรวมบิตคอยน์และไมโครบิตคอยน์ยังคงมีสัดส่วนมากที่สุด แต่จาอินวิเคราะห์ว่า *ความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่อิงกับอีเธอเรียมกำลังโตขึ้นอย่างรวดเร็ว* และบ่งชี้ถึงการย้ายความสนใจของนักลงทุนไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
ตลาดยังจับตามองว่า การเคลื่อนไหวของอีเธอเรียมครั้งนี้เป็นการรีบาวด์ระยะสั้น หรือคือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ขับเคลื่อนโดยสถาบัน หากแนวโน้มความผันผวนและปริมาณการซื้อขายยังคงต่อเนื่องในเดือนข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่อีเธอเรียมจะกลายเป็น ‘ผู้นำคนใหม่’ ที่เปลี่ยนทิศทางของตลาดอนุพันธ์คริปโตจากเดิมที่ถูกนำโดยบิตคอยน์ *ความคิดเห็น: นี่อาจเป็นช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสำคัญในคริปโตยุคใหม่*
ความคิดเห็น 0