คาโรไลน์ เครนชอว์ กรรมาธิการของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ได้ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านต่อจุดยืนของ SEC เกี่ยวกับเหรียญมีมเมื่อเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เครนชอว์ออกแถลงการณ์ระบุว่า แนวทางของ SEC ในการกำหนดความหมายของ 'เหรียญมีม' มีความคลุมเครือมากเกินไป และอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในตลาด นอกจากนี้ เธอยังกล่าวว่าเหรียญมีมมีโอกาสเข้าเกณฑ์ 'Howey Test' ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าทรัพย์สินใดเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีมพัฒนาและทีมการตลาด อาจทำให้เหรียญมีมเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ได้
ในวันเดียวกัน SEC ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า "เหรียญมีมถูกขับเคลื่อนโดยกระแสโซเชียลและมูลค่าที่เกิดจากการเก็งกำไร แต่อยู่ในขอบเขตที่ไม่เข้าข่ายหลักทรัพย์" อย่างไรก็ตาม เครนชอว์กลับมองต่างออกไป โดยเน้นย้ำว่า "เหรียญมีมไม่ใช่แค่โครงการทางวัฒนธรรม แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำกำไร" และแสดงความกังวลว่าแนวทางของ SEC อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของตลาด
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เหรียญมีมตกเป็นเป้าจับตาของหน่วยงานกำกับดูแล หลังจากที่มีกรณีฉ้อโกง การแฮ็ก และแม้แต่การเปิดตัวโทเคนที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ ซึ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงทางกฎหมาย ในฝั่งพรรคเดโมแครต สมาชิกสภาคองเกรสบางคนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบประเด็นด้านจริยธรรมของโทเคนที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ ขณะที่ แซม ริคาร์โด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังผลักดัน "กฎหมาย MEME" ซึ่งมีเป้าหมายในการห้ามไม่ให้ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกเหรียญมีมเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน
ขณะเดียวกัน อลิซาเบธ เดวิส อดีตที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสของคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐ (CFTC) ได้แสดงความคิดเห็นว่า เหรียญมีมควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CFTC เธอกล่าวว่า "หาก CFTC ได้รับอำนาจกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เหรียญมีมก็คงหนีไม่พ้น" นอกจากนี้ เธอยังคาดการณ์ว่า ภายในหนึ่งปีข้างหน้า สหรัฐฯ อาจมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการกำกับดูแลเหรียญมีม ซึ่งจะช่วยลดความคลุมเครือทางกฎหมายในอุตสาหกรรมนี้
ความคิดเห็น 0