ตลาดคริปโตในปีนี้มีแนวโน้มที่ ‘ฤดูกาลอัลท์คอยน์’ จะเกิดขึ้นได้น้อยลง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า โครงการเฉพาะบางแห่งจะสามารถเติบโตได้ โดยเฉพาะโปรเจกต์ที่มีโอกาสได้รับการอนุมัติ ‘กองทุน ETF’ หรือมี ‘โมเดลการทำกำไร’ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาด
พาโอโล อาร์โดอิโน(Paolo Ardoino) ซีอีโอของเทเธอร์(USDT) ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทคู่แข่งและหน่วยงานทางการเมืองหลายแห่ง พยายามขับไล่ ‘ผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ที่สุดของโลก’ ออกจากตลาด ผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) เขายืนยันว่า "แทนที่บริษัทคู่แข่งจะพัฒนา ‘ผลิตภัณฑ์’ และ ‘เครือข่ายการจัดจำหน่าย’ ที่ดีกว่า พวกเขากลับมุ่งเป้าไปที่การกำจัดเทเธอร์" ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ‘มูลค่าตลาด’ ของเทเธอร์อยู่ที่ 142,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า ‘USD คอยน์(USDC)’ ของเซอร์เคิล(Circle) กว่าสองเท่า
ในขณะเดียวกัน คิม ยอง-จู(Ki Young Ju) ซีอีโอของคริปโตควอนท์(CryptoQuant) เตือนว่า ภายในปี 2025 อัลท์คอยน์ส่วนใหญ่ ‘อาจไม่สามารถอยู่รอดได้’ ยกเว้นบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) เขาย้ำว่า "ยุคที่ ‘เหรียญทุกตัว’ สามารถพุ่งขึ้นพร้อมกันได้สิ้นสุดลงแล้ว" โดยในระยะยาว สกุลเงินดิจิทัลที่มี ‘โอกาสได้รับการอนุมัติ ETF’ และสามารถดึงดูด ‘นักลงทุนที่มีความสม่ำเสมอ’ จะเป็นผู้ที่ทำกำไรได้สูงสุด
อีกด้านหนึ่ง แรงกดดันจาก ‘การปรับฐานตลาด’ ส่งผลให้ 24% ของเหรียญใน 200 อันดับแรก ดิ่งลงสู่ ‘จุดต่ำสุดในรอบปี’ ทำให้เกิดความกังวลว่าตลาดอาจเข้าสู่ ‘ภาวะ Capitulation’ หรือการ ‘เทขายอย่างรุนแรง’ ฮวน เปลลิเซอร์(Juan Pellicer) นักวิจัยอาวุโสจากอินทูเดอะบล็อก(IntoTheBlock) วิเคราะห์ว่า "มีการ ‘ชำระบัญชีครั้งใหญ่’ ในกลุ่มเหรียญนำโดยโซลานา(SOL) ขณะที่ ‘มูลค่าตลาดรวมของคริปโต’ ลดลงเหลือ 3.13 ล้านล้านดอลลาร์" ซึ่งสะท้อนถึงการเร่งเคลียร์ ‘เลเวอเรจส่วนเกิน’ ออกจากตลาด
แม้ตลาดจะยังคงอยู่ในภาวะไม่แน่นอน แต่บางโครงการยังคงได้รับ ‘ความเชื่อมั่น’ ว่าจะสามารถเติบโตได้ในระยะยาว ขณะที่โครงสร้างของตลาดคริปโตกำลังถูก ‘ปรับเปลี่ยน’ อย่างต่อเนื่อง ปี 2025 อาจเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมนี้
ความคิดเห็น 0