อีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าร่วงลงประมาณ 30% ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และยังคงอ่อนตัวลงในเดือนธันวาคม ทำให้มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าแรงขายอาจลากยาวไปจนถึงสิ้นปี โดยล่าสุด ราคาของอีเธอเรียมได้ร่วงลงจากระดับ *3,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 440,760 บาท) ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญที่เคยคงตัวอยู่ก่อนหน้านี้
ข้อมูลจากเครือข่ายบล็อกเชนชี้ว่า หากแนวโน้มขาลงยังดำเนินต่อไป มีความเป็นไปได้ที่ราคาของ ETH จะถอยลงไปอยู่ระหว่างระดับ *2,500 ดอลลาร์* (ประมาณ 367,300 บาท) ถึง *2,200 ดอลลาร์* (ประมาณ 323,220 บาท) โดยอ้างอิงจากดัชนี ‘MVRV’ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดมูลค่าในเชิงพื้นฐาน และโครงสร้างกราฟแบบ *Pennant* ที่หากเกิดการพังทลายพร้อมกันก็อาจจะนำไปสู่การปรับฐานที่รุนแรงยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ในเชิงบวกเช่นกัน หากอีเธอเรียมสามารถทะลุรูปแบบกราฟแบบ *Falling Wedge* ซึ่งเป็นปลายทางของแนวโน้มขาลง อาจส่งผลให้เกิดการดีดกลับขึ้นได้ถึงระดับ *3,550 ดอลลาร์* (ประมาณ 521,570 บาท) โดยรูปแบบนี้มักจะถูกตีความว่าเป็นสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์สู่ขาขึ้นในการวิเคราะห์เชิงเทคนิค
ในขณะนี้ ตลาดกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวของอีเธอเรียมอย่างใกล้ชิด การปะทะกันระหว่างฝั่ง *ชอร์ต* และ *ลอง* สร้างบรรยากาศความตึงเครียดสูงขึ้น หลายคนมองว่านี่คือโอกาสในการเก็บของราคาถูก แต่ก็ยังต้องพิจารณาปัจจัยมหภาคและทิศทางของบิตคอยน์(BTC) ที่อาจส่งผลสำคัญต่อแนวโน้มของ ETH ในช่วงต่อไป
*ความคิดเห็น*: ช่วงเวลานี้อาจเป็นจุดชี้ชะตาของอีเธอเรียม หากไม่สามารถรักษาแนวรับสำคัญไว้ได้ ตลาดอาจเห็นแรงขายจากนักลงทุนระยะกลางถึงสั้นเพิ่มขึ้น แต่หากหลุดจากกรอบขาลงสำเร็จ ก็มีลุ้นระเบิดเทรนด์ขาขึ้นแบบสายฟ้าแลบอีกครั้งในช่วงก่อนสิ้นปี
ความคิดเห็น 0