ความต้องการผลตอบแทนจากดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก กำลังผลักดันการเติบโตของการ ‘โทเคนไนซ์สินทรัพย์จริง’ หรือการแปลงสินทรัพย์แบบดั้งเดิมเข้าสู่ระบบบล็อกเชนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างรวดเร็วภายในปี 2026
บริษัทด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคอยน์แชร์ส(CoinShares) ระบุในรายงานแนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2026 ที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า การโทเคนไนซ์สินทรัพย์จริงเติบโตอย่างมากในปี 2025 โดยมีการออก ‘พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐบนเชน’ ที่ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนแปลงนี้ รายงานเผยว่า มูลค่าของพันธบัตรสหรัฐบนบล็อกเชนเพิ่มขึ้นจาก 3.91 พันล้านดอลลาร์เป็น 8.68 พันล้านดอลลาร์ภายในปีเดียว ส่วนทรัพย์สินในรูปแบบสินเชื่อภาคเอกชน (private credit) ก็เติบโตจาก 9.85 พันล้านดอลลาร์เป็น 18.58 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
แมทธิว คิมเมล นักวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัลจากคอยน์แชร์ส กล่าวว่า “การโทเคนไนซ์ไม่ใช่แค่ประเด็นในชุมชนคริปโตอีกต่อไป เราเห็นบริษัทที่น่าเชื่อถือเริ่มออกสินทรัพย์เหล่านี้ และเงินทุนจริงก็ไหลเข้ามา ขณะเดียวกันหน่วยงานกำกับดูแลก็เริ่มยอมรับบล็อกเชนในฐานะโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกต้อง” *ความคิดเห็น*
ท่ามกลางกระแสนี้ อีเธอเรียม(ETH) ยังคงรักษาสถานะผู้นำในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโทเคนไนซ์พันธบัตรสหรัฐ โดยข้อมูลจาก RWA.xyz แสดงให้เห็นว่ามูลค่าพันธบัตรที่บันทึกบนเครือข่ายอีเธอเรียมมีมูลค่าเกิน 4.9 พันล้านดอลลาร์แล้ว
กระแสการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์จริงเข้าสู่บล็อกเชนนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ซึ่งกำลังเชื่อมโยง ‘ดีไฟน์ (DeFi)’ หรือการเงินไร้ตัวกลาง เข้ากับระบบการเงินดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโทเคนไนซ์พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ กำลังดึงดูดเม็ดเงินดอลลาร์เข้าสู่ระบบคริปโตมากขึ้น
*ความคิดเห็น*: แนวโน้มนี้ชี้ชัดว่าการโทเคนไนซ์สินทรัพย์เป็นมากกว่าแค่กระแสระยะสั้น มันคือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างระยะยาว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยยังสูง นักลงทุนทั่วโลกที่แสวงหาผลตอบแทนจากดอลลาร์อาจย้ายมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนมากขึ้น
ในแง่กลยุทธ์ อีเธอเรียมยังครองตำแหน่งแพลตฟอร์มหลักของการโทเคนไนซ์สินทรัพย์จริง นักลงทุนที่สนใจระบบ RWA ควรติดตามโครงการที่เกี่ยวข้องและโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้พันธบัตรสหรัฐในรูปแบบโทเคน อาจกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับโฉมตลาดสภาพคล่องผ่านการเชื่อมโยงกับโปรโตคอลดีไฟน์ต่อไป
ความคิดเห็น 0