ตลาดซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ชิคาโก(CME) พบส่วนต่างของราคาสัญญาฟิวเจอร์สของบิตคอยน์(BTC) มากที่สุดในประวัติศาสตร์
เมื่อวันที่ 2 ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศแผนการสำรองสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากนั้น CME ฟิวเจอร์สบิตคอยน์และราคาตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัลมีส่วนต่างมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) ตามข้อมูลของเทรดดิงวิว(TradingView) การเปิดเผยแผนนี้ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 438 ล้านล้านบาท) และทำให้ตลาดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
บิตคอยน์(BTC) มีการซื้อขายในช่วงระหว่าง 85,000 ดอลลาร์ถึง 95,000 ดอลลาร์ในวันดังกล่าว ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดและส่วนต่างของราคาที่สูงที่สุดที่เคยเห็นมา เทียบกับส่วนต่าง 4,000 ดอลลาร์ที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โจ แม็คแคน ผู้ก่อตั้งแอซซิมเมทริก(Asymmetric) ให้ความเห็นว่า "ตลาดกำลังเผชิญกับส่วนต่างของราคาที่ไม่เคยมีมาก่อน"
นักวิเคราะห์จากเร็คท์แคปิตอล(Rekt Capital) ระบุว่า "บิตคอยน์ได้ปิดช่องว่างราคาค่า CME ที่ระดับ 92,800 ดอลลาร์ถึง 94,000 ดอลลาร์แล้ว" พร้อมเสริมว่า "อย่างไรก็ตาม มีการเปิดช่องว่างราคาขนาดใหญ่ใหม่ระหว่าง 84,650 ดอลลาร์ถึง 94,000 ดอลลาร์อีกครั้ง"
ช่องว่างราคาของฟิวเจอร์ส CME มักเกิดขึ้นจากความแตกต่างของช่วงเวลาการซื้อขาย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหยุดทำการในวันศุกร์ ขณะที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ราคามีความผันผวนเมื่อเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์ นักลงทุนจำนวนมากมองว่าช่องว่างเหล่านี้สามารถกลายเป็นแนวรับหรือแนวต้านสำคัญได้
โดยทั่วไป ส่วนต่างนี้มักจะถูกปิดลงในระยะยาว อย่างไรก็ตาม บางนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าช่องว่างของราคาครั้งนี้อาจไม่ได้ปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว อ้างอิงจากประวัติการณ์ในปี 2021 โซมมี(Sommi) ยูทูบเบอร์สายคริปโต เปิดเผยว่า "ช่องว่างขนาดใหญ่ของ CME ที่เกิดขึ้นระหว่างตลาดกระทิงในปี 2021 ในที่สุดถูกปิดลงในช่วงตลาดหมีเท่านั้น"
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ในครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม ดัชนี ‘Bitcoin Dominance’ หรือสัดส่วนของมูลค่าตลาดบิตคอยน์ลดลงจาก 55.4% สู่น้อยกว่า 50% ซึ่งทำให้เหรียญอัลคอยน์หลักๆ มีราคาพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
ความคิดเห็น 0