กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ได้กำหนดเงื่อนไขใหม่ที่จำกัดการถือครองบิตคอยน์(BTC) ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์
เมื่อวันที่ 3 (เวลาท้องถิ่น) IMF ได้ประกาศบันทึกความเข้าใจทางเทคนิค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.04 ล้านล้านวอน) ให้แก่เอลซัลวาดอร์ โดยเนื้อหาของข้อตกลงนี้มีข้อกำหนดห้ามรัฐบาลเอลซัลวาดอร์สะสมบิตคอยน์เพิ่มเติม รวมถึงห้ามออกพันธบัตรหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีบิตคอยน์เป็นฐาน
เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้บิตคอยน์เป็นเงินที่ถูกกฎหมายในปี 2021 และรัฐบาลได้เดินหน้าซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง แต่นโยบายดังกล่าวถูก IMF เตือนว่าอาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางการคลัง ข้อตกลงฉบับใหม่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเอลซัลวาดอร์ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMF
รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ เมนเดซ เบร์โทโล ผู้อำนวยการบริหารของเอลซัลวาดอร์กล่าวว่า "เราได้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์เพื่อกำหนดสถานะทางกฎหมายให้ชัดเจนขึ้น และจำกัดบทบาทของภาครัฐในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้อง" อีกทั้งยังยืนยันว่า "การชำระภาษีด้วยบิตคอยน์จะไม่ได้รับอนุญาต ทุกการชำระภาษีต้องดำเนินการด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น"
นอกจากนี้ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์คาดว่าความช่วยเหลือครั้งนี้จาก IMF จะช่วยดึงดูดเงินสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมจากธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาแห่งอเมริกา
ข้อตกลงระหว่าง IMF และเอลซัลวาดอร์ครั้งนี้สะท้อนถึงท่าทีของประชาคมระหว่างประเทศที่เริ่มเข้มงวดขึ้นต่อการใช้นโยบายที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ ซึ่งเป็นที่จับตาว่าการทดลองของเอลซัลวาดอร์กับบิตคอยน์จะดำเนินไปในทิศทางใดต่อไป
ความคิดเห็น 0