กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) กำหนดเงื่อนไขเงินกู้ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับเอลซัลวาดอร์ โดยสั่งห้ามรัฐบาลซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่ม
เมื่อวันที่ 3 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ได้เสนอเงื่อนไขใหม่ในระหว่างการเจรจาสำหรับเงินกู้เพิ่มเติมแก่เอลซัลวาดอร์ ตามเอกสารทางเทคนิคที่ IMF เปิดเผย มีการระบุว่า ‘ห้ามภาครัฐของเอลซัลวาดอร์สะสมสินทรัพย์บิตคอยน์โดยสมัครใจ’ นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดต่อผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่รัฐบาลออก รวมถึงสินทรัพย์โทเคนที่เชื่อมโยงกับบิตคอยน์
มาตรการดังกล่าวถือเป็นแนวทางที่สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเร่งขยายการใช้บิตคอยน์ในภาคเศรษฐกิจนับตั้งแต่ยอมรับให้เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย IMF เคยออกมาเตือนว่าการใช้งานคริปโตในภาครัฐอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
ขณะที่ในวันเดียวกัน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ประกาศยุติการสอบสวน ยูคา แลบส์(Yuga Labs) บริษัทด้าน NFT อย่างเป็นทางการ โดยยูคา แลบส์เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ‘SEC ได้ดำเนินการตรวจสอบกว่า 3 ปีและตัดสินใจว่าไม่มีปัญหาทางกฎหมายใด ๆ’ พร้อมระบุว่าคำตัดสินนี้เป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ ต่ออุตสาหกรรม NFT และระบบนิเวศของครีเอเตอร์
SEC เริ่มต้นการสอบสวนยูคา แลบส์เมื่อปี 2022 เพื่อตรวจสอบว่า NFT ของบริษัทเข้าข่ายหลักทรัพย์ที่ต้องได้รับการควบคุมหรือไม่ นับเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกำกับดูแลตลาด NFT ล่าสุด SEC ยังตัดสินใจยุติการสอบสวน ออเพนซี(OpenSea) ซึ่งสะท้อนท่าทีผ่อนคลายด้านกฎระเบียบต่ออุตสาหกรรม NFT
ในวันเดียวกัน SEC ได้ถอนฟ้องคราเคน(Kraken) หลังจากก่อนหน้านี้กล่าวหาว่าคราเคนดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าหลักทรัพย์และตลาดซื้อขายโดยไม่จดทะเบียน อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถูกยุติโดยไม่มีบทลงโทษใด ๆ ทางคราเคนให้ความเห็นว่า ‘คดีความนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองแฝงอยู่’ และเชื่อว่าการยุติคดีจะเปิดทางสู่ ‘สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนและสมเหตุสมผลมากขึ้น’
ด้วยการปิดคดีและลดการสอบสวนหลายกรณีในอุตสาหกรรมคริปโต ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลทรัมป์เริ่มส่งผลต่อแนวทางของ SEC ล่าสุด SEC ได้จัดตั้ง ‘ทีมกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล’ ใหม่ เพื่อเพิ่มความชัดเจนด้านกฎระเบียบในตลาดคริปโตต่อไป
ความคิดเห็น 0