หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เตรียมเสนอมาตรการใหม่ป้องกันการฉ้อโกงที่ใช้ AI และตู้ ATM คริปโต
เมื่อวันที่ 6 ตามเวลาท้องถิ่น แคลร์ แมคเฮนรี รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของรัฐเนแบรสกา(NDBF) และประธานสมาคมผู้บริหารหลักทรัพย์อเมริกาเหนือ(NASAA) เตรียมเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษานักลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เพื่อให้การเป็นพยานเกี่ยวกับแนวโน้มการฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์(AI) และตู้ ATM คริปโต
รายงานการบังคับใช้กฎหมายของ NASAA ปี 2024 ระบุว่า การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีได้รับการสอบสวนและดำเนินคดีบ่อยกว่าการฉ้อโกงในรูปแบบอื่น เช่น การฉ้อโกงหุ้น โครงการแชร์ลูกโซ่ และอาชญากรรมทางการเงินออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ AI และโซเชียลมีเดียร่วมกับตู้ ATM คริปโตเพื่อหลอกลวงเหยื่อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และกลุ่มเป้าหมายหลักคือ 'นักลงทุนรายย่อย' โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
แมคเฮนรีชี้ให้เห็นว่า วิธีการป้องกันการฉ้อโกงแบบเดิมไม่ทันต่อการพัฒนาของ AI พร้อมเน้นย้ำว่า การเพิ่มทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลและแยกแยะข่าวสารมีความสำคัญมากกว่าการรู้เพียงแค่แนวทางระวังภัยทางการเงิน เธอยังกล่าวถึงอาชญากรรมที่ใช้ตู้ ATM คริปโตว่า กลุ่มมิจฉาชีพมักหลอกให้เหยื่อฝากเงินสดเข้าไปในตู้ ATM เหล่านี้ จากนั้นจะแปลงเงินเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถโอนออกไปได้ยากต่อการติดตาม โดยหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการตู้ ATM คริปโตในรัฐเนแบรสกาพบว่า 98% ของธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านตู้ของพวกเขาเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง
แมคเฮนรียังตั้งข้อสังเกตว่า เหยื่อจำนวนมากไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากกลัวถูกตราหน้าว่าเป็นเหยื่อของกลโกง พร้อมแนะนำว่าความรับผิดชอบควรอยู่ที่ผู้กระทำผิดมากกว่าผู้เสียหาย นอกจากนี้ ผู้สูงอายุมักเป็นเป้าหมายหลักเนื่องจากพวกเขามีทรัพย์สินสะสมจำนวนมาก แต่ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการเงินสมัยใหม่
แมคเฮนรียังเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของการพัฒนาแนวทางป้องกันการฉ้อโกงที่ก้าวทัน AI โดยเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลร่วมมือกันมากขึ้น พัฒนาระบบตรวจจับการฉ้อโกงที่ขับเคลื่อนด้วย AI และขยายการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน ท่ามกลางการพัฒนาของอาชญากรรมทางการเงินที่ใช้คริปโตและ AI จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าสหรัฐฯ จะมีมาตรการรับมืออย่างไรในอนาคต
ความคิดเห็น 0