อนาโตลี ยาโคเวนโก ผู้ร่วมก่อตั้งโซลานา(SOL) แสดงจุดยืนคัดค้านการนำ ‘เงินสำรองคริปโต’ ที่รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการ โดยกล่าวว่าการแทรกแซงของรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อ ‘การกระจายศูนย์’ (Decentralization) ของอุตสาหกรรมคริปโต
เมื่อวันที่ 6 ยาโคเวนโกโพสต์ข้อความใน X (เดิมคือ Twitter) โดยระบุว่าเขา ‘ไม่ต้องการให้มีเงินสำรองคริปโต’ เลยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด "หากรัฐบาลเข้ามาถือครองอำนาจ คริปโตก็ไม่เป็นคริปโตอีกต่อไป" เขาย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียอำนาจควบคุมจากภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยาโคเวนโกยังเสนอแนวทางประนีประนอม โดยให้แต่ละรัฐบริหารเงินสำรองคริปโตของตัวเอง ซึ่งเขามองว่าเป็นวิธีหนึ่งในการสร้าง ‘เกราะป้องกัน’ หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัดสินใจผิดพลาด
เมื่อวันที่ 2 ทรัมป์ได้ประกาศรายชื่อสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกพิจารณาให้เป็นเงินสำรองแห่งชาติ ซึ่งรวมถึง ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL), คาร์ดาโน(ADA), บิตคอยน์(BTC) และ อีเธอเรียม(ETH) เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ ยาโคเวนโกเสนอว่า หากต้องมีเงินสำรองจริงๆ ก็ควรมี ‘เกณฑ์ที่ชัดเจน’ ในการคัดเลือกคริปโตแต่ละรายการ "หากมีเกณฑ์ที่เหมาะสม ผมมั่นใจว่าโซลานาจะผ่านมาตรฐานเหล่านั้น" เขากล่าว
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือว่าริปเปิลอาจเป็นผู้แนะนำให้รวมโซลานาในรายชื่อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยาโคเวนโกปฏิเสธทันที โดยระบุว่า "ไม่มีตัวแทนคนใดสามารถตัดสินใจแทนโซลานาได้" และยืนยันว่าเขาไม่เคยมีส่วนร่วมในการหารือเรื่องนี้
ด้าน ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ผู้ก่อตั้งคาร์ดาโน(ADA) ก็แสดงความแปลกใจเช่นกัน โดยสารภาพว่าเขา ‘ไม่เคยรู้มาก่อน’ ว่าคาร์ดาโนจะถูกรวมอยู่ในรายชื่อเงินสำรองคริปโต และยังไม่ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมการประชุมด้านคริปโตที่ทำเนียบขาว ซึ่งมีรายงานว่าผู้เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วย แบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอของริปเปิล, ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสเตรตีจี และ ไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอของคอยน์เบส
ความคิดเห็น 0