หุ้นของ ‘คอร์ ไซแอนติฟิก(CORZ)’ บริษัทขุดบิตคอยน์(BTC) ร่วงลง 18% เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) หลังจากมีรายงานว่าไมโครซอฟท์(MSFT) ได้ลดขนาดสัญญาบางส่วนกับพันธมิตรอย่าง ‘คอร์วีฟ(CoreWeave)’
ตามรายงานของ ‘ไฟแนนเชียลไทมส์(FT)’ ไมโครซอฟท์ตัดสินใจลดขนาดสัญญาเนื่องจากคอร์วีฟล่าช้าในการส่งมอบวัสดุหลักสำหรับการขยายโมเดลปัญญาประดิษฐ์(AI) คอร์วีฟถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของไมโครซอฟท์ โดยในปี 2023 คิดเป็น 35% ของรายได้ทั้งหมด และในปี 2024 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 62%
คอร์ ไซแอนติฟิกเคยทำข้อตกลงกับคอร์วีฟเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,670 ล้านบาท) เพื่อให้เช่าศูนย์ข้อมูล ‘Tier 3’ ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส พร้อมสนับสนุนความจุเซิร์ฟเวอร์สูงสุด 16 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เพื่อกระจายแหล่งรายได้ก่อนที่บิตคอยน์จะ ‘ลดรางวัลการขุด(Halving)’
แม้คอร์ ไซแอนติฟิกเคยเผชิญกับภาวะล้มละลาย แต่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในบริษัทขุดบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ ข้อมูลจาก ‘อาร์คัม อินเทลลิเจนซ์(Arkham Intelligence)’ ระบุว่าบริษัทถือครองบิตคอยน์อยู่ที่ 755.6 BTC (มูลค่าประมาณ 66.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,440 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่คอร์ ไซแอนติฟิกที่ได้รับผลกระทบ ราคาหุ้นของบริษัทขุดบิตคอยน์รายอื่นก็ดิ่งลงเช่นกัน ‘ไซเฟอร์ ไมนิง(CIFR)’ ร่วง 9% ขณะที่ ‘คลีนสปาร์ค(CLSK)’ และ ‘บิตฟาร์มส์(BITF)’ ต่างลดลง 5% ตลาดหุ้นสหรัฐก็มีแนวโน้มเชิงลบเช่นกัน ดัชนี ‘Fear and Greed Index’ ลดลงสู่ระดับ ‘Extreme Fear’ ที่ 17 ขณะที่ดัชนีแนสแด็กปรับตัวลง 2.6% ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกดดัน
ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับตลาดคริปโต ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและความตึงเครียดด้านภาษีระหว่างภาคธุรกิจกับ ‘รัฐบาลทรัมป์’ ส่งผลให้จิตวิทยาการลงทุนลดลง บิตคอยน์ร่วงต่ำกว่าระดับ 90,000 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) ทำเนียบขาวเตรียมจัด ‘การประชุมสุดยอดคริปโตของรัฐบาลทรัมป์’ โดยมีบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมเข้าร่วม เช่น ไมเคิล เซย์เลอร์ ประธาน ‘ไมโครสเตรตีจี’ ไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอ ‘คอยน์เบส’ และแบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอ ‘ริปเปิล’
ความคิดเห็น 0