หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ ความต้องการที่แท้จริงของบิตคอยน์(BTC) กำลังลดลง ตามรายงานล่าสุดของ CryptoQuant เมื่อวันที่ 8
CryptoQuant เปิดเผยว่า ‘ความต้องการเชิงสัญลักษณ์’ ของบิตคอยน์ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่การพุ่งขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมปีที่ผ่านมา ขณะที่ ‘ความต้องการซื้อขายจริง’ ยังคงซบเซา
บริษัทวิเคราะห์ตลาดคริปโตแห่งนี้เรียกปรากฏการณ์ล่าสุดว่า ‘Trump-n-Dump’ อธิบายถึงสถานการณ์ที่ราคาคริปโตพุ่งขึ้นทันทีหลังจากคำประกาศของทรัมป์ แต่จากนั้นถูกเทขายอย่างหนัก
เมื่อวันที่ 2 ทรัมป์ประกาศจากทำเนียบขาวว่าจะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อกำกับดูแลการสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล โดยกล่าวถึงบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP) และคาร์ดาโน(ADA) พร้อมย้ำเป้าหมายผลักดันสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของตลาดคริปโตโลก
หลังประกาศ บิตคอยน์พุ่งขึ้น 14%, อีเธอเรียมเพิ่ม 20%, ริปเปิลทะยาน 40%, โซลานาและคาร์ดาโนปรับตัวขึ้นกว่า 20% และ 60% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคากลับร่วงลงสู่ระดับเดิมภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ข้อมูลของ CryptoQuant ระบุว่า การปรับฐานของราคาเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการไหลเข้าของบิตคอยน์ในตลาดแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม BTC ที่ถูกโอนเข้าสู่แพลตฟอร์มเทรดพุ่งสูงถึง 6,739 BTC จากเดิมที่อยู่ในช่วง 500-1,000 BTC ในขณะที่มีการโอนอีเธอเรียมจำนวนมากกว่า 300,000 ETH ส่วนริปเปิลพบธุรกรรมโอนเข้า Exchange มากกว่า 200 ล้าน XRP โดยเฉพาะธุรกรรมขนาดใหญ่จากวาฬที่ปล่อยขายสินทรัพย์จำนวนมาก
ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง เมื่อทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเกี่ยวกับโครงการสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลและบิตคอยน์เมื่อวันที่ 6 มีนาคม รายละเอียดระบุว่า สินทรัพย์สำรองจะมาจากคริปโตที่ถูกยึดจากการดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีแผนเข้าซื้อเพิ่มเติม
ในรายงาน CryptoQuant เตือนว่า ตลาดคริปโตไม่อาจเติบโตระยะยาวได้เพียงเพราะนโยบายของรัฐบาล และระบุว่าหากบิตคอยน์หวังรักษาแนวโน้มขาขึ้นจะต้องอาศัย ‘ความต้องการที่แข็งแกร่งขึ้น’ จากนักลงทุน
ความคิดเห็น 0