โรบินฮูด(Robinhood) บรรลุข้อตกลงกับสำนักงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงินของสหรัฐฯ (FINRA) เป็นมูลค่า 29.75 ล้านดอลลาร์ เพื่อตัดสินข้อกล่าวหาด้านการบริหารระบบซื้อขายและการป้องกันการฟอกเงินที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
ตามรายงานของ FINRA ระบุว่า ระหว่างเดือนมีนาคม 2020 ถึงมกราคม 2021 โรบินฮูดล้มเหลวในการควบคุมระบบประมวลผลธุรกรรมอย่างเหมาะสม แม้ปริมาณการซื้อขายจะพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจำกัดการซื้อขายหุ้นมีม เช่น เกมสต็อป(GME) และ AMC เอนเตอร์เทนเมนต์(AMC) ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากประสบปัญหาล่าช้าในการซื้อขาย
นอกจากนี้ โรบินฮูดยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ระบบตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัยไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งอนุญาตให้เปิดบัญชีโดยไม่ผ่านการยืนยันตัวตนที่เหมาะสม ซึ่งทำให้เงินทุนถูกเคลื่อนย้ายอย่างผิดปกติ รวมถึงมีกรณีบัญชีถูกแฮ็กโดยไม่มีการดำเนินมาตรการที่เพียงพอ FINRA ชี้ว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากความล้มเหลวของมาตรการป้องกันการฟอกเงินภายในบริษัท
นอกเหนือจากนั้น โรบินฮูดยังแจกจ่ายข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดให้กับนักลงทุนผ่านนักการตลาดที่ได้รับค่าตอบแทน ขณะเดียวกัน บริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายที่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อจาก ‘คำสั่งตลาด’ ไปเป็น ‘คำสั่งจำกัด’ ส่งผลให้ FINRA กำหนดค่าชดเชยเพิ่มเติมจำนวน 3.75 ล้านดอลลาร์
โรบินฮูดยอมรับผลการสอบสวนของ FINRA แต่ไม่ได้ยอมรับว่ามีความผิดทางกฎหมาย ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม บริษัทได้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 45 ล้านดอลลาร์กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ซึ่งถือเป็นการปรับใหญ่ครั้งที่สองจากหน่วยงานกำกับดูแล
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายการเงินของโรบินฮูดยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 บริษัททำสถิติกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 916 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากการซื้อขายคริปโตพุ่งขึ้น 200% แตะระดับ 358 ล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 450% อยู่ที่ 71,000 ล้านดอลลาร์ ตอกย้ำแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0