บิตคอยน์(BTC) และตลาดคริปโตทั่วโลกเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก โดยราคาของบิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 76,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ การปรับฐานนี้ส่งผลให้มีการชำระบัญชีในตลาดสูงถึง 952 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.39 ล้านล้านวอน ภายใน 24 ชั่วโมง
บิตคอยน์ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดยหลุดระดับแนวรับ 80,000 ดอลลาร์ และปรับตัวลงแตะ 77,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์มองว่าสาเหตุหลักมาจาก ‘ความเสี่ยงถดถอยทางเศรษฐกิจ’ ของสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 40% นอกจากนี้ นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์อาจมีผลต่อแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
แอนโทนี ปอมพลิอาโน นักวิเคราะห์ตลาดคริปโต ยังระบุว่าความผันผวนของตลาดหุ้นอาจเกี่ยวข้องกับนโยบายภาษีของทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ต้องเผชิญแรงกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงจาก 4.8% ในเดือนมกราคม มาอยู่ที่ 4.21% ซึ่งอาจเป็นสัญญาณสำคัญว่า Fed อาจผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่งผลต่อแนวโน้มของตลาดหุ้นและคริปโตเคอเรนซี
แนวโน้มของบิตคอยน์ยังเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียง BTC แตะระดับ 76,900 ดอลลาร์ และกำลังได้รับแรงหนุนจาก ‘เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ (EMA)’ ทำให้มีโอกาสรีบาวด์ได้ อย่างไรก็ตาม หากแรงขายยังคงดำเนินต่อไป อาจนำไปสู่การลดลงสู่ระดับแนวรับ 73,750 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากบิตคอยน์สามารถกลับมายืนเหนือ 80,000 ดอลลาร์ได้ อาจส่งสัญญาณการกลับตัวสู่ขาขึ้น พร้อมเป้าหมายที่ 85,000 ดอลลาร์
ความคิดเห็น 0